วันนี้ IEC Abroad จะขอมาแนะนำ TOP BOARDING SCHOOL ในอังกฤษ ให้กับน้องๆที่สนใจอยากไปศึกษาต่อกันค่ะ มาดูกันว่าจะมีโรงเรียนอะไรบ้าง
ระดับการศึกษาในสหราชอาณาจักร
ส่วนใหญ่นักเรียนในสหราชอาณาจักร จะเริ่มเรียนกันตั้งแต่อายุ 5 ปี ถึง 16 ปี โดยเป็นการศึกษาภาคบังคับ เด็กนักเรียนที่สหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะเรียนในโรงเรียน แต่ถ้าเป็นนักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา นักเรียนจะต้องลงเรียนในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น
Why Study in UK?
1. การศึกษาเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
ระบบการศึกษาในสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดของโลก มีมหาวิทยาลัยกว่า 166 เเห่งทั้งมหาวิทยาลัยใหม่ชั้นนำที่ทันสมัย เเละมีมหาวิทยาลัยที่เก่าเเก่ที่สุดในโลก ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาในสหราอาณาจักรยังเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วโลก
2. ชั้นเรียนขนาดเล็ก และการสนับสนุนอย่างดี
การเรียนในโรงเรียนสหราชอาณาจักรเป็นมากกว่า
การเรียนเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการ นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ การเรียนการสอนจะมุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุข มีความมั่นใจ มุ่งมั่น และพร้อมที่จะสร้างสิ่งที่ดีให้กับโลกได้ นักเรียนทุกคนได้รับการเอาใจใส่โดยเฉพาะในโรงเรียนประจำอิสระที่ชั้นเรียนมีขนาดเล็กอาจารย์ทกุท่านพร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
3. ระยะเวลาเรียนที่สั้นกว่า
การเรียนปริญณาในสหราชอาณาจักรจะมีระยะเวลาเรียนที่สั้นกว่า ประเทศอื่นๆนักเรียนสามารถเรียนปริญญาได้ในเวลาเพียงแค่ 3 ปี และระดับปริญญาโทเพียง 1 ปีเท่านั้น
4. เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย
โรงเรียนในสหราชอาณาจักรมีคุณภาพการศึกษา ระดับโลกและการเรียนการสอนที่โดดเด่นซึ่งจะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมเข้าสู่มหาวิทยาลัย และอาชีพ การงานในอนาคตได้เป็นอย่างดี ในปี 2566 มากกว่า 9 ใน 10 นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนเอกชน ในสหราชอาณาจักรเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และ 3 ใน 4 ของนักเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นนำในสหราชอาณาจักรได้
รายชื่อโรงเรียนมัธยมในอังกฤษ
Location: Bury St Edmunds
Type: Co-ed
Age: 7-17 ปี
Location: Stonehouse
Type: Co-ed
Age: 7-18 ปี
Location: York
Type: Co-ed
Age: 6-18 ปี
Location:
Type:
Age:
Location: Somerset
Type:
Age:
ระดับการศึกษาในประเทศอังกฤษ
1. ระดับก่อนปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
1.1 ระดับก่อนปฐมวัย
1.2 ระดับประถมศึกษา – สำหรับนักเรียนที่มีอายุตั้งเเต่ 5-13 ปี
1.3 ระดับมัธยมศึกษา – สำหรับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 18 – 19 ปี
1.3 ระดับมัธยมศึกษา
สำหรับนักเรียนในระดับนี้ ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 5 ปี ซึ่งเรียกว่า “year 9 – Year 13” หรือ “Form 3 – Form 6“ เเละสำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อ โรงเรียนมัธยมของเอกชน (Independent School) เท่านั้น ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ เเละความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการยื่นสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาต่อไป โดยจะสอบประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี การสอบจะเเบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
a). GCSE
(General Certificate of Secondary Education)
การสอบวัดระดับนี้เหมาะสำหรับอายุ 16 ปี สามารถเลือกวิชาสอบได้ 6 – 10 วิชา โดยผลการสอบเเบ่งออกเป็น 7 ระดับ คือ Grade A B C D E F เเละ G สำหรับนักเรียนที่สอบ GCSE ได้เเล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา) หากจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จะต้องศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปี ในระดับ A Level (Advance Level)
b). A Level
(Applied Knowledge Level)
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเข้มข้นซึ่งใช้เวลาเรียน 2 ปี เป็นการสอบระหว่างนักเรียนที่มีอายุ 16 – 19 ปี มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชาส่วนใหญ่นักเรียนในระดับ A Level จะลงเรียนเพียง 2 – 4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาเเต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง วิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตร หรือสาขาที่ต้องการศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี การที่นักเรียนจะได้รับการพิจารณาจากมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องได้ผลการสอบในระดับ Grade C ขึ้นไป เเต่ในบางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาเฉพาะเเค่ ผลการสอบในระดับ Grade A เเละ B เท่านั้น โดยผลการสอบของหลักสูตรนี้มีทั้งหมด 5 ระดับ
คือ A B C D E
การให้คะแนนเกรดของ A LEVEL
A* | A | B | C | D | E |
90%ขึ้นไป | 80 – 89 % | 70 – 79% | 60 – 69% | 50 – 59% | 40 – 49% |
2. ระดับอาชีวะ
เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึงเหมาะกับนักเรียนที่ไม่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เเต่ต้องการที่จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ คุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันการศึกษาด้านอาชีวศึกษานี้ มีทั้งของรัฐบาล เเละเอกชน
3. ระดับอุดมศึกษา
การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในปัจจุบันของสหราชอาณาจักรมีประมาณ 96 เเห่ง เป็นของรัฐบาลเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิยาลัยเอกชนเพียงเเห่งเดียว
การศึกษาในระดับอุดมศึกษา เเบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ
3.1 ระดับปริญญาตรี
โดยส่วนใหญ่เเล้วระดับปริญญาตรีใช้เวลาเรียนทั้งหมด 3 ปี เเละในบางหลักสูตรนักเรียนสามารถฝึกงานได้ในสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
3.2 ระดับปริญญาโท
การเรียนต่อปริญญาโทที่สหราชอาณาจักร นักเรียนจะใช้เวลาเรียนเพียง 1 ปี ซึ่งการเรียนที่นี่จะทำให้นักเรียนประหยัดเวลา เเละค่าใช้จ่ายด้วยเเล้วนั้น หลังจาก 1 ปี นักเรียนยังสามารถกลับมาทำงานได้อีกด้วย
CHOOSING & APPLY TO UK SCHOOL
การเลือกโรงเรียน การสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา เเละวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
การสมัครเข้าเรียน
เเต่ละโรงเรียนจะมีข้อสอบของทางโรงเรียน ส่วนมากจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ เเละคณิตศาสตร์
เมื่อทำข้อสอบเรียบร้อยเเล้ว จะมีการสัมภาษณ์ผ่านทาง Skype ต่อกับทางโรงเรียนอีก 1 รอบ เมื่อโรงเรียนตอบรับเข้าเรียนก็จะส่งจดหมาย offer letter มาให้ หรือบางโรงเรียนก็ต้องการให้นักเรียนทำข้อสอบในระบบกลาง หรือที่เรียกว่า UKiset นั่นเอง
UKiset เป็นข้อสอบวัดระดับทักษะ มีทั้งหมด 4 เรื่องหลักๆ คือ
1. Non verbal Reasoning (การเเก้ปัญหาโดยใช้รูปภาพ เเละการดู Pattern ต่างๆ)
2. verbal reasoning (ความสามารถในการใช้คำศัพท์ เเละภาษา)
3. Mathematics Skill (ทักษาะทางคำนวณ เเละตัวเลข)
4. English Skill (ทักษะการฟัง พูด อ่าน เเละเขียน รวมไปถึงคำศัพท์ เเละ Grammar)
การที่นักเรียนจะได้รับการตอบรับจากทางโรงเรียนนั้น นักเรียนจะต้องใช้เอกสารในการยื่น ดังนี้
1. หลักฐานรายงานการเรียนย้อนหลังโดยประมาณ 1-3 ปี
2. จดหมายอ้างอิงจากครูใหญ่ของโรงเรียนเก่า ของนักเรียนที่จบมา
3. Passport
ต้องสมัครเมื่อไหร่
จริงๆเเล้วถ้าเป็นอายุที่ให้นักเรียนเข้าไปเรียนเเล้วได้มีเวลาในการปรับปรุงตัวให้เข้ากับสภาพเเวดล้อม เเละมีเวลาในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น ก็จะเป็นช่วงอายุ 11 ปี (Year 7) เเละ 13 ปี (Year 9) นั่นเอง เพราะเมื่อนักเรียนอายุ 16 ปี เเล้วจะต้องสอบ GCSE เเละเตรียมสอบ A Level เมื่ออายุ 18 ปี ดังนั้นโรงเรียนส่วนมากจะไม่ค่อบให้นักเรียนย้ายโรงเรียนในช่วงระหว่างหลักสูตร GCSE เเละ A Level
ถ้าต้องการที่จะไปเรียนในระดับมัธยมจึงเเนะนำให้ไปเรียนช่วงอายุ 14 ขึ้นไป (เข้าเรียน Year 10 – GCSE) เเละ 16 ปีขึ้นไป (เข้าเรียน Year 12 / Sixth Form – A Level) จึงเป็นอีกช่วงที่นักเรียนนิยมเข้าเรียนมากที่สุด
โดยปกติเเล้วเเต่ละโรงเรียนจะกำหนด deadline การปิดรับสมัครสำหรับชั้นปีต่างๆ เเต่อย่างไรก็ตามหากต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน ยิ่งสมัครเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น เช่น หากสมัครเรียนในเดือนกันยายนล่วงกน้า 2 ปี ก็จะมีเวลาให้นักเรียนได้เตรียมตัวสมัครการเข้าสอบ เเละมีโอกาสเข้าได้มากกว่าในโรงเรียนที่มีการเเข่งขันสูง (โดยเฉลี่ยควรจะสมัครก่อนล่วงหน้า 1 ปี)