สำหรับน้องๆ หลายคนที่กำลังสนใจ อยากไป Work and Study แต่อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะไปเมืองไหนดี? เมืองไหนจะเหมาะกับตัวเรามากที่สุด? วันนี้พี่ๆ IEC Abroad ขอมาแนะนำเมืองแรก “Melbourne” เมืองยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก แล้วเมลเบิร์นมีจุดเด่น และ สถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง? ทำไมต้องไป Work&Study ที่ Melbourne ที่นี่มีคำตอบให้แล้วค่ะ
ถ้าหากน้องๆกำลังมองหาสีสันในการใช้ชีวิต เมืองเมลเบิร์นคงตอบโจทย์อย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องกาแฟที่คุณภาพดีและอร่อยที่สุดในโลกที่มีอยู่ทุกหัวมุมถนน, แหล่งรวมอาหารไทย รสชาติเลิศ นี่ยังไม่ได้รวมถึงงานศิลปะ street art อันโด่งดัง ที่ Hosier Lane ซึ่งเมืองนี้ยังถือเป็น events capital โดยมีการจัดเทศกาลตลอดทั้งปี ตั้งแต่เทศกาลเพลง ไปจนถึง เทศกาลไวน์ และไฮไลท์สุดปังของเมืองนี้ ก็คือ นกเพนกวินสุดน่ารัก และ ชายหาดยอดฮิตอย่าง Brighton
จุดเด่นของเมืองเมลเบิร์น
อันดับ 1 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ถึง 7 ปีซ้อน
1. เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และมีความปลอดภัยสูง
ได้รับการจัดอันดับจาก The Economist Intelligence Unit ให้เมลเบิร์น จากประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด ติดต่อกันสูงถึง 8 ปีซ้อน โดยเป็นการสำรวจเมืองต่างๆทั่วโลก ทั้งหมดถึง 140 แห่ง และได้รับคะแนนสูงสุดถึง 97.5 จาก 100 คะแนน จากการจัดจำแนกตามหัวข้อต่างๆ 5 หัวข้อ ตั้งแต่ ความมั่นคง, การให้บริการด้านสุขภาพ, วัฒนธรรมแและสิ่งแวดล้อม, การศึกษา และ โครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเรื่องความปลอดภัย ก็สูงสุดๆเลยค่ะ ผู้คนที่นี่เฟรนด์ลี่มากๆ เหมาะสำหรับน้องๆนักเรียนต่างชาติ เป็นที่สุด
2. กาแฟที่ดีที่สุด อยู่ที่เมลเบิร์น!
Coffee Culture หรือวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ การชาวออสเตรเลียนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนที่นี่เลยทีเดียวค่ะน้องๆ โดยเฉพาะกาแฟที่มีคุณภาพดี และมีความหลากหลายสูง เลยทำให้เป็นที่โชคดีของน้องๆเลือกไปอยู่ที่เมลเบิร์นเลยแหละค่ะ โดยเมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านกาแฟติดอันดับโลก จนได้รับรางวัลให้เป็น The World’s Best Coffee ทำให้น้องๆสามารถพบร้านกาแฟ ได้ทั่วไปตามท้องถนน ในตรอกซอกซอย หลายๆคนถึงกับเอ่ยปากเลยว่า In Melbourne, Coffee is King เลยทีเดียวค่ะ
3. ศูนย์กลางแห่งศิลปะ
เมลเบิร์น เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องศิลปะบนท้องถนน โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแห่งศิลปะบนท้องถนนของโลกเลยแหละค่ะน้องๆ โดยสภาเทศบาลเมืองได้กำหนดพื้นที่บางส่วนให้กับศิลปินถนน และ สตรีทอาร์ต น้องๆจะได้ชื่นชมกับศิลปะและวัฒนธรรมได้มากมายทั่วเมืองเมลเบิร์น
4. สถาปัตยกรรมยอดเยี่ยม
เมลเบิร์นยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง สถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทำให้น้องๆสามารถเดินชื่นชมได้ทั้งวัน โดยที่ไม่มีเบื่อ ถ่ายรูปสวยทุกมุมแน่นอนค่ะ แต่ถ้าจะให้พูดถึงไฮไลท์เลย ก็คงจะต้องเป็น สถานีรถไฟที่ถนนฟินเดอร์ ที่มีสีเหลืองสวยงามตัดกับสีอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ น้องๆคนไหนได้ไปเมลเบิร์นต้องไม่พลาดเช็คอินที่นี่แน่นอนค่ะ
5. ความหลากหลายทางเชื้อชาติ
เมลเบิร์นถือว่าเป็นเมืองแห่งความฝัน สำหรับน้องๆที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพราะว่านอกจากวัฒนธรรมของชาวออสเตรเลียเองแล้ว ยังมีชนชาติอื่นๆที่อาศัยอยู่ ทำให้มีส่วนผสมที่ลงตัวและหลากหลาย ผู้คนเข้าถึงง่ายและใจดีมากๆเลยแหละค่ะน้องๆ
สภาพอากาศ
- Summer (December – February) : อุณหภูมิเฉลี่ย 14 – 25.3°C
- Autumn (March – May) : อุณหภูมิเฉลี่ย 10.9 – 20.3°C
- Winter (June – August) : อุณหภูมิเฉลี่ย 6.5 – 14.2°C
- Spring (September – November) : อุณหภูมิเฉลี่ย 9.6 – 19.6°C
โดยเฉลี่ยแล้ว เมลเบิร์นจะเป็นเมืองที่ถือว่ามีอากาศเย็นเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ในประเทศออสเตรเลีย อุณหภูมิตลอดทั้งปีจะค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับน้องๆที่ ไม่ชอบอากาศร้อน อยากสัมผัสลมเย็นๆตลอดปี
เอาหละค่ะน้องๆ มาถึงพาร์ทที่ไม่แนะนำก็คงไม่ได้ นั่นก็คือ สถานที่ที่ควรไปเช็คอิน เมื่อไป Work&Study ที่เมืองนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าไปไม่ถึงน้าา
- Healesville Sanctuary
- Great Ocean Road
- Wilsons Promontory
- Sovereign Hill
- City Laneways
- St Kilda
และพลาดไม่ได้สำหรับน้องๆ สาย Instagrammable พี่ๆ ก็ไม่พลาดขอแนะนำ Instagram Spot แถมให้ด้วยค่ะ
- La Trobe Reading Room
- Shrine of Remembrance
- Princes Pier
- Brighton Bathing Boxes
- Federation Square
- Royal Botanic Gard
สุดท้ายนี้ สำหรับน้องๆที่ตัดสินใจได้แล้วว่า จะไป Work & Study ที่เมืองนี้แน่นอน พี่ๆ IEC Abroad ขอลิสต์สถาบันสอนภาษาชั้นนำใน Melbourne ให้ไว้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจนะคะ
- Impact English College
- International House (IH)
- Discover English
- ILSC Languages Schools
- Greenwich English College