หากน้องๆ มีเป้าหมายอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการเรียน A-Level หรืออยากเรียนหลักสูตรที่เน้นเฉพาะทางและใช้เวลาไม่นาน หลักสูตร International Foundation Programme (IFP) จาก Abbey DLD Group of Colleges อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับน้องๆค่ะ วันนี้พี่ๆ IEC Abroad ขอพามาทำความรู้จักกับ IFP เพิ่มเติมกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ IFP


- IFP เป็นหลักสูตร Foundation 1 ปี ที่ออกแบบโดยทีมของ Abbey DLD เอง
- ได้รับการรับรองจาก NCFE หน่วยงานด้านคุณวุฒิทางการศึกษาของสหราชอาณาจักร
- เทียบเท่ากับระดับ A-Level (Year 13)
- เหมาะสำหรับนักเรียนอายุ 17 – 21 ปี
NCFE คืออะไร และดีอย่างไร?
NCFE (Northern Council for Further Education) คือหนึ่งในองค์กรรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาที่เก่าแก่และน่าเชื่อถือที่สุดในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1848 และปัจจุบันเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งมีบทบาทในการรับรองหลักสูตรการศึกษาในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับอาชีวศึกษา ไปจนถึงหลักสูตรเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย เช่น International Foundation Programme (IFP)
NCFE ดีอย่างไร?
- ได้รับการรับรองจากรัฐบาลอังกฤษ
NCFE เป็นหนึ่งใน awarding bodies ที่ได้รับการควบคุมและรับรองโดย Ofqual (Office of Qualifications and Examinations Regulation) ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการด้านการศึกษาในอังกฤษ - เทียบเท่ามาตรฐานระดับประเทศ
หลักสูตรที่ NCFE รับรองจะได้รับการออกแบบให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับวุฒิอย่าง A-Level หรือ BTEC ซึ่งเป็นที่ยอมรับในมหาวิทยาลัยทั้งในอังกฤษและต่างประเทศ - คุณภาพหลักสูตรมั่นใจได้
เนื้อหาหลักสูตรมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนมีทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย - ยืดหยุ่นและเหมาะกับนักเรียนต่างชาติ
หลักสูตรที่ผ่านการรับรองจาก NCFE อย่าง IFP ของ Abbey DLD มักออกแบบมาเพื่อรองรับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ ทั้งในด้านภาษา โครงสร้างหลักสูตร และการเรียนรู้แบบรายบุคคล - ไม่ผูกกับมหาวิทยาลัยเดียว
นักเรียนที่เรียนหลักสูตรที่รับรองโดย NCFE ไม่จำเป็นต้องเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่เป็นเจ้าของหลักสูตรเท่านั้น (ต่างจากบางมหาวิทยาลัยที่เปิด foundation programme ของตัวเอง) ทำให้มีตัวเลือกสมัครเข้าได้กว้างกว่า
สรุป: NCFE คือผู้รับรองหลักสูตรที่ได้มาตรฐานในสหราชอาณาจักร ซึ่งช่วยให้นักเรียนมั่นใจว่าหลักสูตรที่เรียนมีคุณภาพ และสามารถใช้วุฒินี้ในการสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้อย่างมั่นใจ ทั้งในอังกฤษและอีกหลายประเทศทั่วโลก
ประโยชน์และความแตกต่างของ IFP


- นักเรียนของคอร์ส Foundation สามารถยื่นสมัตรมหาลัยได้หลายๆที่
- ขนาดห้องเรียนที่เล็กกว่าคอร์ส Foundation ของทางมหาลัย
- ทาง Abbey เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กนักเรียน international มี facility พร้อมเช่นหอพัก/extra-curricular activities & clubs/ติดเตอร์ และ เจ้าหน้าที่แนะแนวส่วนตัว
- สำหรับนักเรียนที่ต้องการเพิ่มสกิลพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษ โรงเรียนก็พร้อมรองรับ
- แบ่งการประเมินผลออกเป็นช่วงสั้น ๆ และจัดการได้ง่ายขึ้น
- ได้เรียนกับทีมครูเดียวกับนักเรียนระดับ A-Level (Year 13)
- เลือกวิชาเรียนได้อย่างยืดหยุ่นตามความสนใจและเป้าหมายการเรียนต่อ
- ผลสอบออกก่อนนักเรียน A-Level จึงได้เปรียบในการยื่นสมัครมหาวิทยาลัย
- มีตัวเลือกในการเรียนต่อหลากหลายมหาวิทยาลัย ไม่จำกัดเฉพาะที่เดียวเหมือน Foundation ที่จัดโดยมหาวิทยาลัย
- มีการดูแลนักเรียนในลักษณะโรงเรียน จึงให้การสนับสนุนและเอาใจใส่ได้มากกว่า
- มีการเสริมทักษะภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ
- ทีมงานและครูมีความเข้าใจความต้องการของนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี
- นักเรียนทุกคนจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาส่วนตัว พร้อมการสนับสนุนด้าน UCAS ในการยื่นสมัครมหาวิทยาลัย
- จัดกิจกรรมเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยทั้งแบบในโรงเรียนและทัศนศึกษาในทุกแคมปัสของ Abbey
โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรนี้แบ่งออกเป็น 3 เทอม โดยแต่ละเทอมจะเรียน 4 โมดูล และมีการสอบปลายเทอม
- เทอมแรก เนื้อหาเบื้องต้น ปูพื้นฐาน
- เทอมสอง เริ่มลงลึกในเนื้อหา
- เทอมสาม เนื้อหาขั้นสูง เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามารถสอบซ้ำเทอม 1 และ 2 ได้
- หากต้องการปรับเกรด ผลสอบออกใน เดือนมิถุนายน – ต้นกรกฎาคม เร็วกว่านักเรียน A-Level ทำให้มีเวลาเตรียมสมัครมหาวิทยาลัยก่อน
Core Skills Module และการเตรียมตัวระดับปริญญาตรี
- ทุกวิทยาลัยมีการสอน Core Skills Module ซึ่งเป็นวิชาที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในด้านวิชาการและทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนระดับมหาวิทยาลัย
- มุ่งเน้นการฝึกฝนการเขียนเชิงวิชาการ การคิดวิเคราะห์ การทำวิจัย และการนำเสนอผลงาน
Additional English Lessons สำหรับนักเรียนต่างชาติ
- มีบทเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรง
- ช่วยยกระดับความสามารถทางภาษา โดยเฉพาะเพื่อให้ได้ตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการ (มหาวิทยาลัยชั้นนำมักต้องการระดับภาษาอังกฤษที่สูงกว่า)
- การมีภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นจะช่วยให้สามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่มีอันดับสูงได้มากขึ้น
ความยืดหยุ่นของโปรแกรมในแต่ละวิทยาลัย
- ที่วิทยาลัย Manchester นักเรียนสามารถออกแบบโปรแกรมได้เองมากกว่า โดยสามารถเลือกผสมวิชาได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
- เหมาะกับนักเรียนที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น การผสมวิชา Business กับ Economics หรือ Business กับ Global Studies
- อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบางสาย เช่น Computer Engineering จะมีโครงสร้างตายตัวมากกว่า ไม่สามารถเลือกผสมวิชาได้มากนัก
คอร์สไฮไลท์ของโปรแกรม IFP


Medicine Preparation Programme (Manchester และ Cambridge)
- โปรแกรมนี้ออกแบบมาสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาแพทยศาสตร์ โดยเน้นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านวิชาการและการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
- นักเรียนจะได้เรียนวิชาหลัก เช่น ชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ขั้นสูง และฟิสิกส์ รวมถึงการเตรียมสอบ IELTS และการฝึกทักษะที่จำเป็นสำหรับการสมัครเรียนแพทย์
- โปรแกรมนี้ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Aston University โดยมีข้อกำหนดคะแนนเฉพาะสำหรับการสมัครเข้าเรียน
- นักเรียนจะได้รับการสนับสนุนในการเตรียมตัวสอบ BMAT และ UCAT การเตรียมสัมภาษณ์ และการหาประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาแพทยศาสตร์
- นักเรียนควรมีพื้นฐานด้านชีววิทยาในระดับหนึ่ง และมีทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแรง หรืออาจมาจากสาย A-Level มาก่อน
- มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
- เตรียมความพร้อมทั้งในด้านวิชาการและการสมัครเข้าเรียนต่อในคณะแพทย์
Fashion Management Programme (London)
- โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่สนใจด้านแฟชั่น โดยเน้นการพัฒนาทักษะทั้งด้านการออกแบบและการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมแฟชั่น
- วิชาที่เรียนรวมถึง Fashion, Culture & Identity, Design Process, 21st Century Business และ Management & Strategy
- นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แฟชั่น การวิเคราะห์วัฒนธรรมและอัตลักษณ์ การออกแบบ และกลยุทธ์ทางธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่น
- โปรแกรมนี้ตั้งอยู่ในใจกลางลอนดอน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่น ทำให้นักเรียนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และเครือข่ายในวงการแฟชั่น
- นักเรียนที่เรียนหลักสูตรนี้และได้คะแนนระดับ Merit หรือ Distinction จะได้รับการการันตีให้เข้าเรียนต่อที่ Istituto Marangoni ทั้งในลอนดอนหรือมิลาน
- หลักสูตรออกแบบมาเพื่อปูพื้นฐานด้านการบริหารแฟชั่น พร้อมกับการเตรียมความพร้อมในการเรียนต่อระดับปริญญาตรีในสายงานแฟชั่นโดยเฉพาะ
การเปรียบเทียบระหว่าง University-based กับ School & Colleges-based Foundation Programme
หัวข้อ | University-based Foundation | School & Colleges-based (เช่น Abbey DLD) |
---|---|---|
สถานที่เรียน | เรียนภายในมหาวิทยาลัยโดยตรง | เรียนในโรงเรียนหรือวิทยาลัยก่อนเข้ามหาวิทยาลัย |
พาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัย | มีพาร์ทเนอร์มหาวิทยาลัยชัดเจน | ไม่มีพาร์ทเนอร์หลัก เผื่อเลือกมหาวิทยาลัยได้หลากหลาย |
การันตีเข้าเรียนต่อมหา’ลัย | มีการันตี แต่ต้องได้ผลการเรียนและภาษาอังกฤษตามกำหนด | มีการันตีคล้ายกัน แต่อาจเปิดกว้างมากกว่า |
ขนาดห้องเรียน | ประมาณ 20-30 คน | เฉลี่ยประมาณ 10 คน ได้รับการดูแลแบบใกล้ชิดมากขึ้น |
ความยืดหยุ่นในการเลือกมหาวิทยาลัย | จำกัดตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด | สมัครได้กว้างกว่า หลายมหาวิทยาลัยใน UK และต่างประเทศ |
เหมาะกับใคร | นักเรียนที่มีเป้าหมายเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนั้นๆ โดยตรง | นักเรียนที่ต้องการโอกาสมากกว่าและการดูแลเป็นพิเศษ |
การสนับสนุนเพิ่มเติม | โฟกัสเฉพาะวิชาการและทักษะที่จำเป็นในคณะที่เรียน | มีดูแลชีวิตความเป็นอยู่, คลับ, กิจกรรมนอกห้องเรียน |
การรับนักเรียน | รับรอบเดียว (ส่วนมากกันยายน) | มีหลายรอบ โดยเฉพาะที่ Manchester มีรอบมกราคม |
เหมาะกับนักเรียนต่างชาติ | ต้องปรับตัวเองในระบบมหาวิทยาลัยทันที | เหมาะกับนักเรียนที่เพิ่งเดินทางไปเรียนต่างประเทศครั้งแรก |
การประเมินผล (Assessment)
- มีการสอบแบบเขียนทั้งหมด 3 ครั้ง คือสิ้นสุดแต่ละเทอม (ปลายเทอม 1 ปลายเทอม 2 และปลายเทอม 3)
- ไม่จำเป็นต้องทบทวนบทเรียนจากเทอมก่อน ๆ ในการสอบแต่ละเทอม จึงทำให้การเตรียมตัวสอบง่ายขึ้นและไม่หนักเกินไป
- สามารถสอบซ้ำเทอม 1 และ 2 ได้หากต้องการเพิ่มคะแนน ซึ่งให้นักเรียนมีโอกาสควบคุมผลการเรียนได้มากขึ้น
การให้คะแนน (Grading)
- คะแนนเต็มทั้งหมดคือ 100%
- 40 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน
- 65-75 คือระดับ Merit (เทียบเท่าเกรด A ของ A-Level)
- มากกว่า 75 ถือว่าระดับ Distinction
ประกาศผล
- ผลการเรียนจะออกในเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคม
- เร็วกว่านักเรียนที่เรียน A-Level ทำให้นักเรียนมีโอกาสยื่นสมัครมหาวิทยาลัยได้ก่อน
สำหรับปี 2025 นักเรียนที่จบหลักสูตร International Foundation Programme (IFP) ของ Abbey DLD Group of Colleges ได้รับข้อเสนอเข้าศึกษาต่อจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรมากกว่า 100 แห่ง โดยกว่า 70% ของนักเรียนได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Russell Group และมีมากกว่า 600 ข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้
- มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะประเมินหลักสูตร Foundation ของ Abbey เป็นประจำทุกปี
- มหาวิทยาลัยรู้จักและให้ความเคารพในคุณภาพของนักเรียน Abbey
- มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยระดับท็อป 20 และกลุ่ม Russell Group ที่มีชื่อเสียงในสหราชอาณาจักร
- หลักสูตร IFP ยังได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยในประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา
- เคยมีนักเรียนที่เรียนหลักสูตร IFP และสามารถเข้าเรียนแพทยศาสตร์ได้
- นักเรียน Abbey ส่วนใหญ่มักจะได้เข้ามหาวิทยาลัยในกลุ่ม Top 50 แต่โรงเรียนไม่บังคับให้นักเรียนสมัครมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่งโดยเฉพาะ
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่นักเรียน IFP ได้รับข้อเสนอในปี 2025 รวมถึง:
- Queen Mary University of London
- University of Manchester
- King’s College London
- University College London (UCL)
- University of Leeds
- University of Southampton
- University of Birmingham
- University of Warwick
- University of Bristol
- University of Nottingham
- City, University of London
- St George’s University of London
- University of Westminster
- University of Surrey
- University of Exeter
- Manchester Metropolitan University
- Brunel University London
- Kingston University London
- Regent’s University London
- University of Reading
นอกจากนี้ นักเรียน IFP ยังได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เช่น Aston University, University of Bradford, University of Chester, Keele University, Lancaster University, Liverpool John Moores University, Manchester Metropolitan University, University of Plymouth, University of Southampton, University of the West of England (UWE), University Academy 92 (UA92) และ University of Central Lancashire (UCLan)
สำหรับปี 2025 โปรแกรม International Foundation Programme (IFP) ของ Abbey DLD Group of Colleges มีให้เลือกเรียนที่ 3 วิทยาเขต ได้แก่ Abbey College Cambridge, DLD College London และ Abbey College Manchester โดยแต่ละวิทยาเขตมีเส้นทางการเรียน (pathways) ที่แตกต่างกันตามความเชี่ยวชาญและความสนใจของนักเรียนค่ะ
Abbey College Cambridge
- Business, Accounting & Economics
- Engineering
- Medicine
- Science
DLD College London
- Business
- Engineering
- Fashion Management
- Computer Science & Mathematics
- Biomedical Science
- Humanities / Social Sciences
- Art & Design
Abbey College Manchester
- Business
- Engineering
- Medicine
- Science
- Humanities
- Creative Arts
- Environmental Science
- Sport
FAQ:
- Q: ความหลากหลายของนักเรียน โดยเฉพาะที่แมนเชสเตอร์
A: นักเรียนประมาณ 60% เป็นนักเรียนต่างชาติ และ 40% เป็นนักเรียนอังกฤษท้องถิ่น มีนักเรียนจากกว่า 40 สัญชาติ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีนแผ่นดินใหญ่ เอเชียกลาง ยุโรป และละตินอเมริกา โดยที่แมนเชสเตอร์จะมีนักเรียนท้องถิ่นมากที่สุดในบรรดาทุกแคมปัส - Q: มีกิจกรรมนอกห้องเรียนสำหรับสายวิศวกรรมหรือไม่
A: มีแน่นอน กิจกรรมจะช่วยให้นักเรียนได้สำรวจและตัดสินใจว่าอยากเรียนต่อในสาขาวิศวกรรมแขนงใด - Q: มีทุนการศึกษาหรือไม่
A: มี ทุนการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครเรียน
หากน้องงๆ คนไหนสนใจปรึกษาเพิ่มเติมสำหรับ Abbey College สามารถทักเข้ามาปรึกษาพี่ๆ IEC Abroad ก่อนได้เลยนะคะ