ติดต่อเรา :

MBA กับ MSc ต่างกันยังไงนะ?

สำหรับวันนี้ พี่ๆ IEC Abroad ขอมาไขข้อสงสัย กับคำถามยอดฮิต ว่า MBA กับ MSc  ทั้งสองอย่างนี้ มีความเหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร? แล้วควรจะเลือกเรียนอย่างไหนดีกว่ากัน? ต้องขอบอกน้องๆก่อนเลยว่า การเลือกเรียนทั้ง MBA และ MSc มีประโยชน์และสามารถทำให้น้องๆได้รับโอกาสการทำงานที่ดีไม่ต่างกันเลยนะคะ แต่ว่าพี่ๆ ขอมาลงดีเทลว่า ทั้งสองแบบนี้ แบบไหนจะเหมาะกับน้องๆมากกว่ากันดีกว่าค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลยค่าน้องๆ

MBA คืออะไร?

MBA นั้น ย่อมาจาก Master of Business Administration ซึ่งคือการเรียนต่อปริญญาโทในด้านบริหารธุรกิจ เป็นหลักสูตรที่ช่วยให้น้องๆได้พัฒนาทักษะในสายงานด้านธุรกิจ และการบริหาร การเรียนต่อ MBA ไม่เพียงแค่มีประโยชน์ทางด้านธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อผู้ที่ทำงานในสายงานด้านการบริหาร ทั้งผู้ที่ทำงานในภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ คณะรัฐบาล

วิชาที่เรียนในหลักสูตร MBA จะเรียนหลากหลายวิชา ทำให้น้องๆได้เข้าใจภาพรวมในเรื่องของธุรกิจ และการบริหาร น้องๆที่เรียนจบจากคณะอื่นก็สามารถเรียนได้ ไม่เฉพาะเจาะจงไปวิชาใดวิชาหนึ่งค่ะ

วิชาที่น้องๆ จะได้เรียน มีดังนี้:

  • Accounting
  • Economics
  • Finance
  • Marketing
  • International business
  • Business law

MSc คืออะไร?

MSc นั้น ย่อมาจาก Masters of Science ซึ่งเป็นหลักสูตรระดับปริญญาโทที่จะมีหลากหลายหลักสูตรด้วยกัน ดังนี้

  • Science
  • Technology
  • Engineering
  • Medicine
  • Social sciences
  • Mathematics

น้องๆ จะได้เลือกเรียนวิชาดังกล่าว โดยโฟกัสไปที่หลักสูตรที่สนใจเพียงแค่อย่างเดียว เช่น สาขาวิชาการเงิน ที่จะเรียนเฉพาะทางไปในด้านการเงิน น้องๆไม่จำเป็นต้องจบแค่บริหารเช่นกัน แต่ในหลายๆ มหาวิทยาลัยจะกำหนดคณะ หรือสาขาที่จบมาแล้วสามารถเรียนได้ เนื่องจากน้องๆจะต้องมีความรู้เพียงพอนั่นเองค่ะ

ความแตกต่างระหว่าง MBA และ MSc

แบ่งเป็น 4 หัวข้อหลัก ดังนี้

  • ขนาดของห้องเรียน
  • ความมุ่งมั่นตั้งใจ
  • ค่าใช้จ่าย
  • โอกาสในการทำงาน

1. ขนาดของห้องเรียน

ขนาดของห้องเรียน ก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างจะสำคัญในการตัดสินใจที่จะเรียนต่อ เนื่องจากยิ่งขนาดเล็กเท่าไหร่ น้องๆก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับอาจารย์ผู้สอนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า น้องๆก็จะได้มีโอกาสมากขึ้นในการสร้างความสัมพันธ์ และ connection ทั้งกับอาจารย์และเพื่อนๆในห้องเรียน

คอร์ส MBA มักจะมี class size ที่ไม่ใหญ่มาก เนื่องจากต้องการให้นักเรียนได้สร้าง connection ในระหว่างเรียนให้ได้มากที่สุด โดยส่วนใหญ่จะมีนักเรียนต่อห้องเพียงแค่ ไม่เกิน 15 คน เพื่อให้น้องๆได้มีโอกาสในการถาม – ตอบคำถาม และมีส่วนร่วมในการเรียนมากยิ่งขึ้น

มาถึงคอร์ส MSc ที่ class size มักจะใหญ่กว่า เนื่องจากมีนักเรียนให้ความสนใจค่อนข้างมาก ทำให้เมื่อเทียบกันแล้ว ขนาดของห้องเรียน MSc มักจะใหญ่กว่า MBA ซึ่งการเรียน MSc จะทำให้น้องๆได้ connection ในส่วนของ Alumni ที่อาจจะได้รู้จักผู้คนที่หลากหลายว่า มาจากหลายๆ background นั่นเองค่ะ

2. ความมุ่งมั่น ตั้งใจ

อีกหนึ่งความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง MBA และ MSc ก็คือ ระยะเวลาความยาวของหลักสูตร ซึ่งในการเรียนต่อในระดับปริญญาโทนั้น ก็จะมีความแตกต่างใน level ของ ความมุ่งมั่นและตั้งใจ ในการอยากเข้าศึกษาต่อที่ต่างกัน ซึ่งโดยมากแล้ว MBA มักจะ มี requirement ที่มากกว่า

หลักสูตร Full-time MBA อาจจะต้องเรียนเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี ถึงจะจบทั้งหลักสูตร แต่ชั่วโมงในการเข้าเรียนในห้องเรียน อาจจะไม่ได้มาก เนื่องจากจะเป็นการกำหนดให้ทำงาน มากกว่า ทำให้จากที่คำนวนคร่าวๆมาให้แล้ว เวลาที่น้องๆ จะต้องเตรียมตัว, ทำการบ้าน, การเข้าเรียน และอ่านหนังสือเพิ่มเติม อาจจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในการเรียน MBA ค่ะ

ส่วนหลักสูตร MSc นั้น อาจจะไม่ได้ require commitment ที่มากเท่ากับ MBA แต่ว่าน้องๆ ก็ยังคงจะต้องมีเวลาในการ เรียนรู้ด้วยตัวเองนอกห้องเรียน เช่นกันค่ะ โดยส่วนมากแล้ว หลักสูตร MSc จะมีระยะเวลา 12-18 เดือน ถึงจะจบทั้งหลักสูตร นั่นเองค่ะ

3. ค่าใช้จ่าย

และแน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ในการเรียนต่อในระดับปริญญาโท โดยเฉพาะเมื่อน้องๆ สนใจที่จะเรียนต่อในคอร์ส accredited MBA ราคาเฉลี่ยโดยประมาณของการเรียน Full-time MBA สองปี จะอยู่ที่ USD$60,000 แต่ถ้าน้องๆสนใจที่จะเข้าศึกษาต่อใน Top Business Schools ราคาอาจจะเพิ่มสูงไปถึง $100,000 เลยทีเดียวค่ะ ส่วนคอร์ส MSc จะมีค่าใช้จ่านเฉลี่ย ตลอดทั้งหลักสูตรอยู่ที่ $15,000 ถึง $20,000 ค่ะ แต่ น้องๆก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะหลายๆมหาวิทยาลัยก็มีการมอบทุนการศึกษาให้ด้วยค่ะ ทำให้น้องๆก็มีโอกาสที่จะจ่ายค่าเรียนในราคาที่ถูกลงค่ะ

4. โอกาสในการทำงาน

น้องๆ ที่จบคอร์ส MBA อาจจะได้รับค่าตอบแทนมากกว่า MSc แต่ว่าโอกาสที่จะได้เข้าทำงานก็มีเท่าๆ กันเลยค่ะน้องๆ เนื่องจากการรับเข้าทำงานก็จะต้องพิจารณาจากหลายๆเรื่อง ไม่ได้แค่ว่าน้องๆจบจากหลักสูตรไหนมาค่ะ  แต่ที่ พี่บอกว่า น้องที่จบ MBA อาจจะได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่า เนื่องจาก ก่อนเข้าเรียน MBA ส่วนมากแล้ว มหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดประสบการณ์ทำงาน ก่อนจะรับเข้าศึกษาต่อค่ะ ทำให้อาจจะเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญว่าทำไม ถึงได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่า นั่นเองค่ะ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่า MSc จะได้ค่าตอบแทนน้อยกว่าเสมอไป เนื่องจากว่า น้องๆจะต้องดูว่าตัวน้องๆเหมาะสมที่จะเข้าเรียนต่อในหลักสูตรไหนค่ะ เพื่อประโยชน์ในสายงานอาชีพของเราในอนาคตค่ะ

https://edvoy.com/articles/whats-the-difference-between-an-mba-and-an-msc

บทความอื่นๆ

Scroll to Top