เรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ
Study in UK Boarding Schools
เรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ
Study in UK Boarding Schools
ทำไมต้องไปเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ
การเรียนต่อมัธยมที่ประเทศอังกฤษเป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติทั่วโลก ด้วยคุณภาพการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ประวัติศาสตร์การสอนอันยาวนาน และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นระบบ ประเทศอังกฤษถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาที่ให้ทั้งโอกาสทางวิชาการและการพัฒนาบุคลิกภาพในเวลาเดียวกัน


ทำไมต้องไปเรียนมัธยมที่อังกฤษกับ IEC Abroad Thailand
IEC Abroad บริการแนะแนวและให้คำปรึกษา เรียนต่อมัธยมที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์ เเคนาดา อเมริกา หรือยุโรป
เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย 🧡 💜
ติดต่อพี่ๆ IEC โทร. 02-2504585 หรือ Line@: @iecabroadth ได้เลยค่ะ
IEC Abroad เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อ รวมทั้งการใช้ชีวิตในต่างประเทศ เพื่อให้ตรงกับเป้าหมายการศึกษา
IEC Abroad ให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
หลักสูตรเรียนมัธยมที่อังกฤษ (United Kingdom High School Programmes)
สำหรับนักเรียนในระดับนี้ ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 5 ปี ซึ่งเรียกว่า “Year 9 – Year 13” หรือ “Form 3 – Form 6“ เเละสำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อ โรงเรียนมัธยมของเอกชน (Independent School) เท่านั้น ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ เเละความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการยื่นสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาต่อไป โดยจะสอบประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี
หลักสูตร GCSE
หรือ General Certificate of Secondary Education หลักสูตรสำหรับนักเรียนอายุประมาณ 14–16 ปี เรียนหลากหลายวิชาเพื่อวางพื้นฐานทางวิชาการก่อนต่อยอดสู่ระดับ A-Level หรือ IB Diploma เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับพื้นฐานและเสริมทักษะภาษาอังกฤษในระบบอังกฤษ
หลักสูตร A-Level
หรือ Applied Knowledge Level หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเข้มข้นซึ่งใช้เวลาเรียน 2 ปี เป็นการสอบระหว่างนักเรียนที่มีอายุ 16 – 19 ปี มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชาส่วนใหญ่นักเรียนในระดับ A Level จะลงเรียนเพียง 2 – 4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาเเต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง วิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตร หรือสาขาที่ต้องการศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี
หลักสูตร IB
หรือ IB Diploma Programme หลักสูตรนานาชาติที่เน้นพัฒนาความรู้รอบด้านและทักษะการคิดวิเคราะห์ นักเรียนเรียน 6 กลุ่มวิชาพร้อมทำโครงงานและกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต สามารถใช้คะแนนสมัครเข้ามหาวิทยาลัยทั่วโลก
หลักสูตร Pre-A Level / Foundation / One-Year GCSE
โปรแกรมเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนต่างชาติ เพื่อปรับพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษและวิชาการก่อนเข้าเรียนหลักสูตรหลัก ช่วยให้นักเรียนปรับตัวสู่ระบบการศึกษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและราบรื่น
บทความที่เกี่ยวข้อง: มาทำความรู้จัก University Foundation Programme
โรงเรียนมัธยมในอังกฤษหลายแห่งเปิดสอนมากกว่าหนึ่งหลักสูตร โดยเฉพาะในระดับ Year 10 – Year 13 ทำให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนในหลักสูตรที่เหมาะกับความสนใจและเป้าหมายทางการศึกษาได้อย่างอิสระ เพื่อเตรียมพร้อมสู่เส้นทางมหาวิทยาลัยทั้งในอังกฤษและต่างประเทศ
ประเภทของโรงเรียนมัธยมในอังกฤษ
โรงเรียนมัธยมในประเทศนิวซีแลนด์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
Boarding School (โรงเรียนประจำ) – นักเรียนพักอาศัยภายในโรงเรียน ได้รับการดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกิจกรรมเสริมทักษะหลากหลาย
Day School (โรงเรียนไป–กลับ) – นักเรียนเข้าเรียนเฉพาะช่วงกลางวันและกลับบ้านในตอนเย็น เหมาะสำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร
Private School (โรงเรียนเอกชน) – โรงเรียนเอกชนในอังกฤษมีอิสระในการจัดการเรียนการสอน มุ่งเน้นคุณภาพการศึกษา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีจำนวนนักเรียนต่อครูที่น้อย ทำให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
Public School (โรงเรียนประจำชื่อดังแบบดั้งเดิม) – โรงเรียนเอกชนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงและประวัติยาวนาน เช่น Eton College, Harrow School และ Winchester College โดดเด่นด้านคุณภาพการสอนและความเป็นผู้นำของนักเรียน
Traditional College (โรงเรียนมัธยมแบบดั้งเดิม) – โรงเรียนที่คงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอังกฤษ เน้นกิจกรรมสร้างสรรค์และการพัฒนาศักยภาพรอบด้านของนักเรียนในบรรยากาศแบบอังกฤษแท้
International College (โรงเรียนนานาชาติในอังกฤษ) – โรงเรียนที่ออกแบบหลักสูตรสำหรับนักเรียนต่างชาติ เน้นการเรียนเชิงวิชาการและการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย เช่นหลักสูตร Pre-A Level, Foundation หรือ One-Year GCSE
โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ
การสมัครเข้าเรียน
เเต่ละโรงเรียนจะมีข้อสอบของทางโรงเรียน ส่วนมากจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ เเละคณิตศาสตร์
เมื่อทำข้อสอบเรียบร้อยเเล้ว จะมีการสัมภาษณ์ผ่านทาง Skype ต่อกับทางโรงเรียนอีก 1 รอบ เมื่อโรงเรียนตอบรับเข้าเรียนก็จะส่งจดหมาย offer letter มาให้ หรือบางโรงเรียนก็ต้องการให้นักเรียนทำข้อสอบในระบบกลาง หรือที่เรียกว่า UKiset นั่นเอง
UKiset เป็นข้อสอบวัดระดับทักษะ มีทั้งหมด 4 เรื่องหลักๆ คือ
- Non Verbal Reasoning (การเเก้ปัญหาโดยใช้รูปภาพ เเละการดู Pattern ต่างๆ)
- Verbal Reasoning (ความสามารถในการใช้คำศัพท์ เเละภาษา)
- Mathematics Skills (ทักษาะทางคำนวณ เเละตัวเลข)
- English Skills (ทักษะการฟัง พูด อ่าน เเละเขียน รวมไปถึงคำศัพท์ เเละ Grammar)
การที่นักเรียนจะได้รับการตอบรับจากทางโรงเรียนนั้น นักเรียนจะต้องใช้เอกสารในการยื่น ดังนี้
- หลักฐานรายงานการเรียนย้อนหลังโดยประมาณ 1-3 ปี
- จดหมายอ้างอิงจากครูใหญ่ของโรงเรียนเก่า ของนักเรียนที่จบมา
- Passport
ต้องสมัครเมื่อไหร่
จริงๆเเล้วถ้าเป็นอายุที่ให้นักเรียนเข้าไปเรียนเเล้วได้มีเวลาในการปรับปรุงตัวให้เข้ากับสภาพเเวดล้อม เเละมีเวลาในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น ก็จะเป็นช่วงอายุ 11 ปี (Year 7) เเละ 13 ปี (Year 9) นั่นเอง เพราะเมื่อนักเรียนอายุ 16 ปี เเล้วจะต้องสอบ GCSE เเละเตรียมสอบ A Level เมื่ออายุ 18 ปี ดังนั้นโรงเรียนส่วนมากจะไม่ค่อยให้นักเรียนย้ายโรงเรียนในช่วงระหว่างหลักสูตร GCSE เเละ A Level
ถ้าต้องการที่จะไปเรียนในระดับมัธยมจึงเเนะนำให้ไปเรียนช่วงอายุ 14 ขึ้นไป (เข้าเรียน Year 10 – GCSE) เเละ 16 ปีขึ้นไป (เข้าเรียน Year 12 / Sixth Form – A Level) จึงเป็นอีกช่วงที่นักเรียนนิยมเข้าเรียนมากที่สุด
โดยปกติเเล้วเเต่ละโรงเรียนจะกำหนด deadline การปิดรับสมัครสำหรับชั้นปีต่างๆ เเต่อย่างไรก็ตามหากต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน ยิ่งสมัครเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น เช่น หากสมัครเรียนในเดือนกันยายนล่วงหน้า 2 ปี ก็จะมีเวลาให้นักเรียนได้เตรียมตัวสมัครการเข้าสอบ เเละมีโอกาสเข้าได้มากกว่าในโรงเรียนที่มีการเเข่งขันสูง (โดยเฉลี่ยควรจะสมัครก่อนล่วงหน้า 1 ปี)
ระบบเทอมการศึกษาในประเทศอังกฤษ – United Kingdom Academic Terms
ระบบปีการศึกษาของโรงเรียนในประเทศอังกฤษมีความแตกต่างจากหลายประเทศ โดยใช้ระบบแบ่งปีการศึกษาออกเป็น 3 เทอมต่อปี (Three-Term Academic Year) ได้แก่
ตารางปีการศึกษาของโรงเรียนในอังกฤษ
Autumn Term
กันยายน – ธันวาคม
เป็นช่วงเริ่มต้นของปีการศึกษา โรงเรียนจะเน้นการปรับพื้นฐานการเรียนรู้ ทำความคุ้นเคยกับวิชาใหม่ รวมถึงมีกิจกรรมต้อนรับนักเรียน เช่น กีฬาฤดูใบไม้ร่วงและกิจกรรมชมรมต่างๆ
Spring Term
มกราคม – มีนาคม/เมษายน
เทอมนี้จะมุ่งเน้นเนื้อหาวิชาการอย่างเข้มข้น และมีการสอบกลางปี นักเรียนจะได้ฝึกฝนทักษะการเรียนรู้เชิงลึก พร้อมร่วมกิจกรรมทางศิลปะ ดนตรี และการแข่งขันภายในโรงเรียน
Summer Term
เมษายน – กรกฎาคม
เป็นเทอมสุดท้ายของปีการศึกษา โดยจะมีการสอบปลายภาคหรือสอบหลักสูตรสำคัญ เช่น GCSE หรือ A-Level พร้อมกิจกรรมพิเศษ เช่น Sports Day, งานแสดงดนตรี และพิธีจบการศึกษา ก่อนปิดเทอมฤดูร้อน
บทความเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ
- Advice, ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ, บทความเรียนต่อต่างประเทศ, เรียนต่อมัธยม
- ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ, เรียนต่อมัธยม
ช่วงปิดภาคเรียน (School Holidays)
Christmas Holidays (ประมาณ 2-3 สัปดาห์)
Easter Holidays (ประมาณ 2-3 สัปดาห์)
Summer Holidays (ประมาณ 6-8 สัปดาห์)
ระหว่างนี้ นักเรียนสามารถกลับประเทศไทย หรือเข้าร่วมค่ายภาษาและกิจกรรมในอังกฤษได้