ติดต่อเรา :

Praew

สวัสดีค่ะพี่ ๆ น้อง ๆ ทู๊กกกคนชาว IEC เราชื่อ แพรว อายุ 24 ปี เพิ่งจบการศึกษาจากคณะศิลปะการท่องเที่ยวและการบริการ สาขาธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หลังจากเรียนจบเราก็เริ่มทำงานสนามบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ พอเริ่มทำงานไปได้สักพักเราก็เริ่มสนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับการไปต่างประเทศ สำหรับโครงการที่จะสามารถไปเรียนภาษาและทำงานได้ด้วย และหลังจากที่หาข้อมูลจากหลายๆเอเจนซี่ สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเลือกพี่ ๆ เอเจนซี่ IEC เพราะทางพี่ ๆ ดูแลดีมาก ๆ ทั้งการให้ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ทุกขั้นตอน คอยตอบแชทให้คำตอบทุก ๆ เรื่อง แม้กระทั่งนอกเวลาทำงาน55555 แล้วก็คอยดูแลเรื่องเอกสาร ขอ offers letter จากโรงเรียน ดำเนินการขอวีซ่า แม้วีซ่าจะมีปัญหาก็หาทางแก้ไขปัญหาและให้คำแนะนำดีมาก ๆ หลังจากวีซ่าผ่านจนกระทั่งไปเรียนที่ดูไบ พี่ๆก็คอยทักหาอยู่ตลอด แล้วก็มาเยี่ยมที่โรงเรียน เป็นธุระหิ้วของมาให้อีกด้วย น่ารักมั้ก ๆ พาไปเที่ยวด้วย สนุกสุด ๆกับการได้ไปเที่ยวกับพี่ ๆ วันนี้เลยขออนุญาตรีวิวทางเอเจนซี่ให้พี่ ๆ ฮะ ระยะเวลาคอร์สเรียนของเรา คือ 28 weeks โดยเริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 จนถึง 07 มิถุนายน 2567 โดยโรงเรียนจะมีบททดสอบระดับภาษาของเราก่อนที่จะจัดเลเวลและคอร์สเรียนให้ เลเวลเริ่มต้นที่เราได้เรียน คือ Intermediate ปัจจุบันเราอยู่ในระดับ Advanced ตอนเรียนเรา Take short course โดยการลงเรียน คอร์ส Grammar คู่กับ Speaking class เพราะอยากจะเรียนจบไวขึ้นเพื่อหางานทำ แต่ทางโรงเรียนก็ยังมีคลาสอื่น ๆ อีกด้วย เช่น IELTS , TOEIC , English for Business และอื่น ๆ อีกฮะ ส่วนตัวเราชอบ Speaking class มาก ๆ เพราะ ได้คุยกับเพื่อนๆต่างชาติ ได้เล่นเกมภาษากับเพื่อนๆ ได้แลกเปลี่ยนภาษา แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆด้วยกัน จากทุก ๆ คลาสที่เข้าเรียนทำให้เราได้พัฒนาขึ้นมาก ๆ เป็นการเรียนภาษาที่รู้สึกสนุกและไม่อยากพลาดคลาสเรียนสักคลาสเลย

บรรยากาศในโรงเรียนและห้องเรียน : โรงเรียนมี 2 แคมปัส เราได้เรียนที่แคมปัสย่านในเมือง โรงเรียนมี 3 ชั้นสำหรับนักเรียน แต่ละชั้นจะมีคาเฟ่ให้ด้วย มีโซนนั่งเล่นให้ โรงเรียนคือสะอาดมากๆ แค่ขยับเก้าอี้ก็จะมีพนักงานคอยเก็บและทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา เป็นระเบียบสุดๆ บรรยากาศในห้องก็ดีเลย จำนวนนักเรียนไม่เยอะหรือน้อยเกินไป คละสัญชาติ โรงเรียนจะพยายามไม่ให้สัญชาติเดียวกันอยู่ด้วยกัน ข้อนี้เราชอบมากๆ ช่วยให้เราได้เจอเพื่อนต่างชาติใหม่ๆเยอะ จะช่วยให้หูเราได้เรียนรู้การฟังสำเนียงจากหลายๆสัญชาติด้วย Teacher ก็ยังสามารถเข้าถึงนักเรียนได้ทุกคน และจะคอยกระตุ้นหรือสังเกตนักเรียนอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้ว่าแต่ละคนมีปัญหาทางภาษาตรงไหน พอถึงคลาสสุดท้ายก่อนเปลี่ยนเลเวล Teacher จะพูดคุยตัวต่อตัวกับนักเรียนเพื่อบอกปัญหานั้น แล้วก็ให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาภาษาของตัวเอง อีกอย่างที่ชอบคือ Teacher แต่ละคนจะมีวิธีการสอนแบบของตัวเอง ทั้งเอาเกมมาให้เล่น หาหนัง เพลงหรือ วลีจากหนังเข้ามาสอน ข้อนี้คือทำให้บรรยากาศในคลาสผ่อนคลายและจอยมั้กๆ บางคนมีรางวัลให้ด้วยน๊าสำหรับผู้ชนะ คลาสเรียนจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป 55555 เลิฟ โรงเรียนยังมีสตาฟของแต่ละประเทศไว้คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษากับนักเรียนชาตินั้นๆด้วย แบบว่าไม่ต้องกลัวเลยว่ามีปัญหาแล้วจะไม่มีใครช่วย หายห่วงเลยข้อนี้ ปรึกษาสตาฟได้เลยตลอดเวลาและทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเงิน เอ้ย ปรึกษา แลกเงินได้ แต่ห้ามยืมนะฮะ 555555

กิจกรรมของทางโรงเรียน : บอกเลยข้อนี้ทำให้รักโรงเรียนสุดๆ เพราะทางโรงเรียนมีกิจกรรมเยอะมากกกก มีทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็น ร้องคาราโอเกะ (Karaoke night) , เล่นเกมบิงโก (Bingo & Pizza night) , ดูหนัง (Cinema night) , เล่นเกม (Games night) , ไปตีกอล์ฟ (Top Golf) , ไปล่องเรือยอร์ช (Yacht Party) , ไปเล่นสกี (Ski Dubai) , ไปเที่ยวทะเลทราย ( Desert Safari) , ไปดูรถที่อะบูดาบี (Ferrari World) , พบปะเพื่อนใหม่ (Meet new Buddies) ,ไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ไปแลนมาร์คสำคัญ ๆ ของดูไบ แต่ละที่คือสวยสุด ๆ ที่พูดถึงมาทั้งหมดนี้จะเป็นกิจกรรมประจำเดือน แต่ละเดือนจะสลับ ๆ วันกันไป เราสนใจกิจกรรมไหนก็สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ก่อนได้เลย ทุกกิจกรรมจะมีสตาฟคอยดูแล ชื่อ มาร์ค นางน่ารักและเป็นกันเองสุด ๆ ดูแลนักเรียนดีมาก ใส่ใจเวอร์ อ้อๆๆ ยังมีอีก คือ กิจกรรมเข้าคาร์สอบรมวิธีการเขียน CV เขาจะแนะนำวิธีการเขียนที่ถูกต้องและดึงดูดพอที่จะสมัครงาน แล้วก็แนะนำ website ต่างๆที่จะใช้หางาน ทางโรงเรียนยังมีงานบอร์ดมาให้นักเรียนอีกด้วย สำหรับใครที่กังวลเรื่องนี้

สภาพแวดล้อม : เราไปดูไบช่วงที่ตรงกับอากาศหนาว ซึ่งหนาวจริงค่า อากาศเย็นดีมาก ตอนกลางคืนคือหนาวเลย แต่กลางวันก็ยังมีร้อนบ้างแต่ไม่มาก สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อยู่ ดูไบก็ตามชื่อ มหานครแห่งความเจริญ 55555 ตึกซะส่วนใหญ่ แต่บ้านเมืองคือเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนดีมากกกก บ้านเขาคือเรื่องความเป็นอยู่ดีมากๆ อย่างเช่น ย่านโรงเรียน คือ จะเป็นแบบ Cluster ล้อมรอบ Lake คือสวยเลย มีสิ่งอำนวยความสะอวก ทั้งรถไฟฟ้า ร้านอาหาร ร้านเสริมสวยเสริมความงาม Supermarket คือดี แล้วก็ปลอดภัยสุด ๆ แต่เคร่งมากเรื่อง กฎหมาย เจริญหูเจริญตา มีที่ให้ไปเที่ยวเยอะ สวยๆ แต่ละตึกเจริญมาก ย่านนี้ดีเห็นวิวพระอาทิตย์ตก สวย เต็มสิบไปเลย แถมไม่ไกลจากทะเล ทะเลคือดี สวยสะอาด ไม่มีขยะสักชิ้น ทุกคนเป็นระเบียบ ส่วนหน้าร้อนก็นั่นแหละ ตามชื่อ ร้อนจริงๆแม่ แต่ไม่ขนาดนั้น เชื่อดิ 555555 ตอนแรกคือกลัว อยู่ ๆ ไป อ้าววว ชอบเฉย

การเดินทาง : Public Transport ที่ Dubai คือสะดวกเลย แค่มี Nol card ใบเดียวไปได้ทั่วเมือง แต่แต่แต่ต้องมีเงินในบัตรด้วยนะคะ555555 ที่นี่จะมีอัตราส่วนค่าเดินทางที่ชัดเจน ไกลแค่ไหนก็ 8.50 เดอแร่ม ถ้าใกล้ก็จะถูกลงไป ตามสาย ที่นี่ก็จะมี Metro , Tram , Bus , Taxi แล้วแต่สะดวกเลยว่าไปไหน อยากไปแบบไหน ครบครันคล้ายเมืองไทยเลย เรื่องนี้ถือว่าไม่ยาก บางที่จะมีเรือข้ามฝากให้ด้วย สำหรับย่านไหนที่ติดน้ำ ส่วนใครถามหาแอพพลิเคชั่นเรียกรถ มีไหม มีนะคะ ชื่อ careem , uber เรียกได้เลย คล้ายแกรปบ้านเรา รถคือดี ใหม่ สะอาด แต่ละรุ่นคือดี ปลอดภัย ถึงไว5555555 อาหารก็มีสั่งออนไลน์ ช็อปปิ้งมีเหมือนไทยเลย อีกอย่างที่ชอบละใช้ประจำคือ Bike จ้า ย่าน JLT , JBR จะมีจักรยานไว้ให้หลายๆจุด ค่าสมัครต่อเดือนคือไม่แพงเลย ดีคุ้ม เพราะเป็นจักรยานไฟฟ้า จักรยานอะไรปั่นแล้วไม่เหนื่อย 55555 งงมะ บางคนได้โปรใช้ฟรีเดือนสองเดือนแรก แล้วแต่ใครจะโชคดีไป 5555 อีกอย่างก็จะมี Scooter ให้แทบทุกที่ แค่โหลดแอพ ผูกบัตร สแกนขับได้เลยทั่วเมือง อยากจอดตรงไหนก็จอดทิ้งได้เลย เดี๋ยวมีคนมาเก็บเอง เป็นไงสะดวกสุด ๆ

สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ลองไปใช้ชีวิตดูนะทุกคน ไปลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น จะรู้ว่ามันสนุกสุด ๆ อาจจะมีเหนื่อยบ้าง แต่เชื่อเถอะ เป็นประสบการณ์ที่โคตรดี ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมาที่นี่ ได้พัฒนาตัวเอง ได้ Mindset ดีใหม่ๆ ได้เห็นตัวเองในอีกเวอร์ชั่น แล้วก็เลือกประเทศที่ชอบจริงๆ เอเจนซี่ที่ดูแลครอบคลุมนะคะ ส่วนใครมีคำถาม แอดเฟส มาเลยจ้าที่ >>>> Facebook : Praewwanit Waiyawutthinan

Scroll to Top