Hi วันนี้จะมาแนะนำเรียนภาษาอังกฤษที่ Sydney Australia ค่า ขอแนะนำตัวก่อนจ้า เราชื่อ แยม อายุ 31 ปี(แก่มากจ้า) จบจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขาโฆษณา เมื่อปี 2016 หลังจากเรียนจบได้ทำงาน Production house และได้กลับมาช่วยธุรกิจของที่บ้านคือ ส่งออกน้ำตาลมะพร้าว จึงหาข้อมูลเพื่อเพิ่ม Skills ในการสื่อสาร เลยศึกษาหาข้อมูลเอเจนซี่เจ้าต่างๆ และก็มาจบที่พี่ๆ IEC ดูแลดีมากกกก กอ.ไก่ล้านตัว ช่วยตรวจเอกสารทุกอย่าง ช่วยทุกขั้นตอนจริงๆ จนยื่นวีซ่าผ่าน พอเรามาเรียนที่ Australia พี่ๆก็ยังดูแล และให้ข้อมูลที่เราสงสัยอยู่เรื่อยๆประทับใจมาก พี่ๆไม่ทิ้งเราเลยประทับจิตสุดๆ วันนี้เราเลยอยากมารีวิวการเรียนภาษาให้ทุกคนได้อ่านกันน้า ซึ่งเราเรียนตั้งแต่ December 2023 เราลงคอร์สมา 2 คอร์ส General English และ English for Business
หลักสูตรโรงเรียน
หลักสูตรโรงเรียน : Greenwich College เราเลือกโรงเรียนนี้เพราะมีหลายหลักสูตร และมีนักเรียนนานาชาติ นอกจาก General English แล้วโรงเรียนยังมี Alternative course ให้เลือกทั้ง Cambridge Exams, IELTS Preparation, English for Business ก่อนที่จะเริ่มเรียนทางโรงเรียนก็จะมีสอบวัดระดับภาษาเพื่อให้เราได้อยู่ใน Level ที่เหมาะสม
เราเริ่มstart ด้วย Level Beginner เปิดเรียนวันแรกเจอเพื่อนใหม่หลากหลายสัญชาติ และจำนวนนักเรียนในห้องไม่เกิน 15 คน Teacher ใจดีมากๆ และมีเพื่อนๆต่างวัยต่างภาษาต่างวัฒนธรรม เราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ได้ connection เพิ่ม และกฏของโรงเรียนคือ No phone and Speak English only ทุกคนทำตามกฏ พยายามคุยกัน ทำให้เรารู้สึกสนุก และกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ และ Teacher มีกิจกรรมให้ทำตลอด ทำให้เราอยากไปโรงเรียนทุกวัน
กิจกรรมโรงเรียน
ทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมทุกสัปดาห์ Teacher แต่ละสัปดาห์จะต่างกันไป เช่น พาไปmuseum, beach, picnic เราไปช่วง December ตรงกับ Christmas พอดี ทางโรงเรียนก็จัด Party สนุกมากๆและปลอดภัย และที่สำคัญจะมีการสอนพิเศษสำหรับนักเรียนที่อยากฝึกพูดจะมี speaking club และ help club และอีกมากมาย ซึ่งช่วเราได้เยอะมากๆ
สภาพแวดล้อม
โรงเรียนอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกมากและ มี shop ต่างๆ ร้านอาหารมากมาย สะดวกสุดๆ และที่สำคัญปลอดภัยอีกด้วย
การเดินทาง
ต้องยกให้ Public transport เป็นอันดับหนึ่งในใจ เราพักอยู่นอกเมือง ใช้เวลานั่ง Train เข้าเมือง 15-20 นาที ใช้แค่ Opal card ใบเดียว สามารถใช้ได้ทั้ง Train, Tram, Bus และมี Application ชื่อว่า TripViewLite สามารถเช็ครอบTrain ได้ว่ามากี่โมง ถึงจุดหมายกี่โมง และ location ของโรงเรียนอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินไปจุดสำคัญได้สะดวกมากๆ
การทำงาน part-time
เนื่องจากเราเรียนแค่ 4 วัน วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 9.00-15.00 เราเลยมีเวลาว่าง ไม่รอช้าเราทำ CV และลองไปส่งตาม shop ต่างๆ ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งเราโชคดีที่ได้ทำงาน Runner(เสริฟ), Take order(รับออเดอร์) ที่ร้าน Din Tin Fung เป็นร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียง ร้านมีความเป็นระบบ เพื่อนร่วมงานดีมาก สอนงานเราทุกอย่าง เราคือ staff คนไทยคนเดียวในร้าน แต่ทุกคนใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ซึ่งดีกับตัวเรามาก ได้พูดกับลูกค้า แก้ไขปัญหาหาเฉพาะหน้าโดยภาษาอังกฤษ ทำให้เราไม่อายที่จะพูดหรือสื่อสาร และเราคิดว่าการทำงาน part-time เหมือนการออกกำลังกายไปในตัว55555 สุขภาพแข็งแรงขึ้น ได้เงิน shopping อีกด้วย
มัดรวมการมาเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ
เรารู้สึกว่าเราเก่งขึ้นในการใช้ชีวิต บริหารเวลา มีความรับผิดชอบ ไม่อายที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษ เจอสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สำคัญทำให้เรารู้ว่าเราชอบอะไร และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ งานที่ไทยได้ดีหรือไม่ เพราะที่เราบอกตอนต้นว่า บ้านเรามีธุรกิจส่งออกน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เราไม่รู้สึกเสียดายเงิน และเสียดายเวลาเลย ที่มาเรียนภาษาอังกฤษใน วัย 30 ไม่มีใครที่แก่เกินที่จะเรียนรู้ อยากให้หลายๆคนที่กลัวที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือ เรียนภาษาอังกฤษ ลองเปิดใจ ทำใจความเข้าใจกับมัน สำหรับเรา มันดี มันเลิศ
