ในระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร การเรียนไม่ใช่แค่การท่องหนังสือ แต่รวมถึงการทำกิจกรรมนอกเวลาเรียน (extra-curricular) ที่จะช่วยให้น้องๆ มีทักษะรอบด้าน และยังเป็นจุดแข็งสำคัญในพอร์ตฟอลิโอและ personal statement ที่ใช้สมัครมหาวิทยาลัยชั้นนำค่ะ วันนี้พี่ๆ IEC Abroad ขอมาแนะนำ กิจกรรมที่เลือกทำควรแสดงออกถึงความสนใจ ความสามารถ และแรงบันดาลใจในสาขานั้นๆ อย่างชัดเจน ซึ่งขอแบ่งเป็น 3 สายอาชีพยอดนิยม พร้อมตัวอย่างกิจกรรมที่ควรทำ ค่ะ
สายแพทย์ (Medicine)


กิจกรรมที่แนะนำ
- volunteering ในโรงพยาบาล คลินิก หรือ nursing home เพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจและจรรยาบรรณ
- เข้าร่วม Medical Summer School ที่จัดโดยมหาวิทยาลัย เช่น King’s College London หรือ Imperial
- อ่านหนังสือและเขียน reflection เช่น Being Mortal, The Man Who Mistook His Wife for a Hat
- ทำ EPQ (Extended Project Qualification) ด้าน Bioethics หรือ public health
- เข้าร่วม Biology Olympiad หรือ Science Essay Competitions
- ร่วมจัด Medical Society หรือ Health Club ในโรงเรียน
สายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม (STEM)


กิจกรรมที่แนะนำ
- เข้าร่วมการแข่งขัน British Physics Olympiad, UK Chemistry Olympiad, CREST Awards
- ทำโปรเจกต์วิทยาศาสตร์เพื่อโชว์ในงาน Science Fair
- เข้าชมรม STEM / Robotics / Engineering
- สร้างสิ่งประดิษฐ์ เช่น โครงสร้างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือระบบเซ็นเซอร์
- ทำ EPQ ด้านพลังงานทดแทน ฟิสิกส์ควอนตัม หรือเทคโนโลยีการแพทย์
- เรียนคอร์สออนไลน์ด้านวิศวกรรมหรือ coding จาก FutureLearn หรือ edX
สาย Computer Science / Data Science / AI


กิจกรรมที่แนะนำ
- เข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon หรือ Bebras Challenge
- ทำโปรเจกต์ coding เช่น พัฒนาแอป เกม หรือระบบ recommendation
- สร้าง GitHub portfolio แสดงผลงานโปรแกรมที่เขียนเอง
- เรียนรู้ Python, Java, Machine Learning ผ่าน Coursera หรือ Codecademy
- เข้าชมรม coding หรือตั้งชมรมเองในโรงเรียน
- ทำ EPQ เช่น “Ethical issues of AI in healthcare” หรือ “Blockchain technology in finance”
กิจกรรมเสริมอื่นๆ ที่ทุกสายควรพิจารณา
- Duke of Edinburgh (DofE) Award: พิสูจน์ความมุ่งมั่นและทักษะความเป็นผู้นำ
- Debating Club: เสริมการคิดวิเคราะห์และทักษะการพูด
- Music / Drama / Sport: พัฒนาทักษะสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยมองว่าเป็น “well-rounded”
- Leadership Roles: เป็น Prefect, House Captain หรือ Head of Club
- EPQ (Extended Project Qualification): เหมาะสำหรับแสดงความสนใจเฉพาะทาง และพัฒนาทักษะวิจัย
การมีกิจกรรมเสริมนอกห้องเรียนไม่ใช่แค่เรื่องของความสนุกหรือการผ่อนคลาย แต่คือการสร้าง “พอร์ตฟอลิโอที่มีชีวิต” ซึ่งแสดงถึงความใฝ่รู้ ความมุ่งมั่น และตัวตนของน้องๆ ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อเรียนอยู่ในโรงเรียนประจำอังกฤษ ที่โอกาสเหล่านี้มีอยู่มากมาย
นอกจากการทำกิจกรรมนอกเวลาแล้ว การเลือก “วิชาเสริม (elective subjects)” ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสนใจเฉพาะด้าน ฝึกคิดวิเคราะห์ และสร้างผลงานที่ใช้ยื่นมหาวิทยาลัยได้จริง
วิชาเสริมที่แนะนำตามสายอาชีพ


1. สายแพทย์ / ทันตแพทย์ / สัตวแพทย์
- Biology (จำเป็น)
- Chemistry (จำเป็น)
- Maths (เสริมให้คิดวิเคราะห์)
- Psychology (เข้าใจพฤติกรรมมนุษย์)
- EPQ (เขียนวิจัยด้าน medical ethics, public health)
2. สายวิทยาศาสตร์ / วิศวกรรม
- Physics (สำคัญมากโดยเฉพาะสายวิศวะ)
- Maths & Further Maths (เพิ่มความได้เปรียบในการสอบเข้า)
- Design & Technology (ฝึกออกแบบ สร้างชิ้นงาน)
- Computer Science (สำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์)
- EPQ (เลือกหัวข้อด้าน sustainable engineering หรือ data modelling)
3. สาย Computer Science / Data Science / AI
- Computer Science (เรียนตั้งแต่ A-Level หรือ IGCSE)
- Maths / Further Maths (จำเป็นมาก โดยเฉพาะสำหรับ data & algorithms)
- Physics (ฝึกการคิดตรรกะ)
- EPQ (หัวข้อที่เกี่ยวกับ AI, Blockchain หรือ Ethical Hacking)
ข้อควรพิจารณาในการเลือกวิชา
- วิชาบางตัวจำเป็นต่อการสอบเข้า เช่น Medicine ต้องมี Chemistry + Biology
- วิชาที่เปิดโอกาสให้สร้าง project หรือผลงาน เช่น Art หรือ EPQ จะมีประโยชน์มาก
- ถ้าน้องไม่แน่ใจว่าชอบอะไร ควรเลือกวิชาที่ “กว้างแต่ยืดหยุ่น” เช่น Maths, Biology, English
- ไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาง่าย เพื่อคะแนนดีอย่างเดียว เพราะมหาวิทยาลัยชั้นนำดูทั้งความท้าทายและความเหมาะสมกับสาขาเป้าหมาย
หากน้องๆ กำลังมองหาโรงเรียนที่เหมาะสมกับสายอาชีพของตนเอง หรืออยากได้คำแนะนำว่าควรเริ่มจากกิจกรรมอะไร สามารถติดต่อพี่ๆ IEC Abroad มาเพื่อพูดคุยได้เลยนะคะ