การตัดสินใจส่งลูกไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ระดับประถมหรือมัธยมถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในอนาคตของลูก การเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมในออสเตรเลียจึงควรพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กๆ จะได้เรียนรู้ เติบโต และพัฒนาตัวเองในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด วันนี้ IEC Abroad ขอพามา มาทำความรู้จัก ระบบการศึกษาของออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ค่ะ
AUS


ระบบการเรียนการสอบ
- Year 7-10: การศึกษาในระดับมัธยมต้น
- Year 11-12: การศึกษาในระดับมัธยมปลาย, สอบ HSC (Higher School Certificate) หรือ VCE (Victorian Certificate of Education) ขึ้นอยู่กับรัฐ โดยทั่วไปนักเรียนจะเลือกเรียน 4 หรือ 5 วิชาหลัก ซึ่งเป็นวิชาที่สัมพันธ์กับสาขาวิชาในระดับอุดมศึกษา และเลือกอีก 1 หรือ 2 วิชาเป็นวิชาเลือก เมื่อจบการศึกษาระดับนี้แล้ว จะได้รับประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา (High School Certificate)
จุดเด่นอื่นๆ
- การประเมินผลการศึกษาเน้นความสามารถในการนำความรู้ไปใช้จริง เช่น โครงการวิจัยและการฝึกงาน
- มีทางเลือกในหลักสูตรการเรียนที่หลากหลาย รวมถึงการศึกษาแบบสหวิทยาการ
ลักษณะโรงเรียน
สำหรับนักเรียนต่างชาติ มักเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนเนื่องจากสามารถพักอาศัยอยู่กับหอพักของทางโรงเรียนได้ ปลอดภัยและสะดวกต่อการดูแลนักเรียน
ช่วงเวลาและลักษณะของเด็กที่เหมาะสม
น้องๆสามารถไปเข้าเรียนได้ตั้งแต่ Year 8 หรืออายุ 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการเรียนรู้ในหลายสาขาวิชาและมีความสนใจในการศึกษาเชิงปฏิบัติ ระบบการศึกษาเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและการฝึกงาน
การคัดเลือกเข้าเรียนที่ออสเตรเลีย
1. สอบ AEAS สอบครั้งเดียวยื่นได้ทุกรร.
เป็นข้อสอบกลาง แบบเป็น 3 level
- LV.1 – Year 4-6
- LV.2 – Year 7-9
- LV.3 – Year 10-12
น้องจะต้องสอบเลเวลที่ต้องการจะไปเรียนต่อ
Ex. ตอนนี้อยู่ Year 5 สอบ LV.1 ให้ได้คะแนน Year 6 เพื่อไปต่อ Year 6
แต่ถ้าสอบก่อนหลายปีก็ได้ แต่น้องจพเจอข้อสอบยาก
Ex. ตอนนี้อยู่ Year 5 แต่จะได้ตอบ Year 7 ก็ต้องสอบ LV.2 และรร.จะประเมินคะแนนว่ามีโอกาสไหม ถ้าหากมีโอกาสก็จะให้ offer แต่จะขอดูผลการเรียนเพิ่มเติมและจะต้องสอบอีกครั้งช่วงใกล้ไปเรียนแต่จะได้ offer มารอแล้ว
2. ยื่นสมัครเข้ารร.+สัมภาษณ์
การเข้ามหาวิทยาลัยหลังเรียนจบมัธยมจากออสเตรเรีย
ใช้ผลสอบ HSC หรือ VCE และ ATAR (Australian Tertiary Admission Rank) ในการสมัครเรียน
การเลือกโรงเรียนและที่พักนักเรียนในออสเตรเลีย



เมื่อตัดสินใจส่งบุตรหลานมาเรียนระดับประถมหรือมัธยมที่ออสเตรเลีย สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาร่วมกับการเลือกโรงเรียน คือ รูปแบบที่พัก ซึ่งมี 2 ทางเลือกหลัก คือ
1. แบบอยู่ประจำ (Boarding School)
โรงเรียนประจำคือโรงเรียนที่มีที่พักให้อยู่ภายในบริเวณโรงเรียน มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
เหมาะสำหรับ:
- ครอบครัวที่ไม่สามารถมาพำนักอยู่ในออสเตรเลียกับบุตรหลานได้
- ต้องการให้ลูกเรียนรู้อย่างเป็นระเบียบ มีความปลอดภัยสูง
- พร้อมรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น (ค่าเทอมและค่าที่พักรวมกันจะอยู่ในระดับสูงกว่าการอยู่กับโฮสต์)
ข้อดี:
- ไม่จำเป็นต้องมี Guardian (ผู้ปกครองตามกฎหมายในออสเตรเลีย)
- มีระบบดูแลนักเรียนที่ชัดเจน สภาพแวดล้อมปลอดภัยและมีกิจกรรมเสริมครบถ้วน
2. แบบอยู่กับ Host Family
อีกทางเลือกหนึ่งคือการอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ ซึ่งเป็นครอบครัวชาวออสเตรเลียที่ผ่านการรับรองให้สามารถดูแลนักเรียนต่างชาติได้
เหมาะสำหรับ:
- ครอบครัวที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่สามารถมาพำนักอยู่กับน้องในออสเตรเลียตลอดระยะเวลาเรียน
- ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะค่าครองชีพและค่าที่พักจะต่ำกว่าโรงเรียนประจำ
ข้อจำกัดที่สำคัญ:
- ต้องมี Guardian ที่เป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย (เช่น พ่อหรือแม่) อยู่ในออสเตรเลีย ตลอดระยะเวลาที่เรียน
- ผู้ปกครอง ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เลย ขณะน้องเรียนอยู่ เว้นแต่มีการจัดการเปลี่ยน Guardian อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โรงเรียนแนะนำใน AUS
Boarding
- Melbourne Girls Grammar
- MLC – Methodist Ladies’ College
- The Geelong College
- Wesley College
- Caulfield Grammar School
- Guildford Grammar School, Perth
Homestay
- Mercedes College
- Oakleigh Grammar
- Eltham College
- St. Paul’s School, Brisbane
**Preparation School** (น้องๆ จะต้องสอบ AEAS แล้วไปเรียนภาษาในโรงเรียนพวกนี้ก่อนค่ะ)
- Avalon College
- Shafston International
NZ


ระบบการเรียนการสอบ
- Years 9-10: การศึกษาในระดับมัธยมต้น
- Years 11-13: การศึกษาในระดับมัธยมปลาย,โรงเรียนโดยส่วนใหญ่จะเปิดสอนในหลักสูตร National Certificate of Educational Achievement หรือ NCEA เป็นหลักสูตรการศึกษาของนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ในโรงเรียนรัฐบาลบางแห่งและโรงเรียนเอกชนหลายแห่งยังเปิดสอนในหลักสูตร Cambridge International Examinations (CIE) และหลักสูตร International Baccalaureate เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนอีกด้วย
จุดเด่นอื่นๆ
- การประเมินผลด้วย NCEA เป็นระบบการสอบที่ยืดหยุ่นและเป็นที่นิยม
- การเรียนรู้ที่เน้นการทำงานจริงและการใช้ทักษะในการแก้ปัญหา
- โรงเรียนมีการสนับสนุนให้เข้าถึงการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนทุกคน
- ระบบ NCEA ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกวิชาและระดับการศึกษาที่ตรงกับความสนใจและเป้าหมายอาชีพของนักเรียน
ลักษณะโรงเรียน
สำหรับนักเรียนต่างชาติ สามารถเข้าเรียนได้ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน โดยมีความแตกต่างในด้านของจำนวนนักเรียนและความเข้มข้นทางวิชาการ
ช่วงเวลาและลักษณะของเด็กที่เหมาะสม
- น้องๆสามารถไปเข้าเรียนได้ตั้งแต่ Year 9 หรืออายุ 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
- เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบการเรียนรู้ที่เน้นการทำงานจริงและการใช้ทักษะในการแก้ปัญหาต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกวิชา ระบบ NCEA ช่วยให้เด็กสามารถเลือกวิชาเรียนตามความสนใจและเป้าหมายของตน
การคัดเลือกเข้าเรียนที่นิวซีแลนด์
1. School report
2. สอบข้อสอบของโรงเรียนสำหรับ Year 11-13
3. สัมภาษณ์
การเข้ามหาวิทยาลัยหลังเรียนจบมัธยมจากนิวซีแลนด์
- ใช้ผลสอบ NCEA และการประเมินอื่น ๆ ในการสมัครเรียน
- ช่วงอายุที่เหมาะสม 13 ขวบขึ้นไป
- class size 20-25 คน



โรงเรียนแนะนำใน NZ
Boarding
- Columba College
- Hamilton Boys High School
- Hamilton Girls High School
- Maruwai College
- Napier Boys’ High School
- Napier Girls’ High School
- Nelson College
- Palmerston North Boys’ High School
- St Paul Collegiate School
- St Peter School, Cambridge
Homestay
- Auckland Grammar School
- Kingsway School
- Long Bay College
- Lynfield College
- Mount Albert Grammar School
- Rangitoto College
- Rongotai College
- Sacred Heart Girls’ College
- Waitakere College
ส่งลูกไปเรียนออสเตรเลีย หรือ นิวซีแลนด์ ตั้งแต่มัธยม… ได้อะไรกลับมาบ้าง?



การตัดสินใจส่งบุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ใช่แค่เรื่องของภาษา หรือวุฒิการศึกษาเท่านั้น แต่คือการ “ลงทุนระยะยาว” ที่ส่งผลต่อชีวิตลูกหลานในทุกมิติ ทั้งด้านวิชาการ บุคลิกภาพ และโอกาสในอนาคต
ต่อไปนี้คือผลลัพธ์สำคัญที่ผู้ปกครองสามารถคาดหวังได้จากการส่งลูกไปเรียนที่ออสเตรเลียตั้งแต่ระดับมัธยม:
1. ภาษาอังกฤษที่แข็งแรงแบบธรรมชาติ
การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมจริง จะทำให้เด็กๆ ซึมซับภาษาอังกฤษได้ลึกและแม่นยำ ทั้งการพูด ฟัง อ่าน เขียน จนกลายเป็นภาษาแม่อันดับสองโดยไม่รู้ตัว
2. ทักษะชีวิตและการปรับตัวแบบผู้ใหญ่
การอยู่ต่างแดนตั้งแต่วัยมัธยมช่วยฝึกให้เด็กมีวินัย รู้จักแก้ปัญหา และรับผิดชอบชีวิตตนเอง รู้จักเข้าสังคมที่หลากหลาย วางตัวได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมในระดับสากล
3. เข้าสู่มหาวิทยาลัยดังได้ง่ายขึ้น
เด็กที่เรียนในระบบมัธยมของออสเตรเลียจะคุ้นเคยกับการเรียนการสอนแบบตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดเข้าสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ โดยไม่ต้องสอบเทียบวุฒิ
4. โอกาสในการได้สิทธิพิเศษด้านวีซ่าและการทำงาน
หลายรัฐในออสเตรเลียมีนโยบายส่งเสริมให้นักเรียนต่างชาติที่เรียนต่อจนจบในประเทศสามารถขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้ (Post-Study Work Visa) ซึ่งนำไปสู่โอกาสขอพีอาร์ (PR) หรือเป็นพลเมืองในอนาคต
5. บุคลิกภาพที่เติบโตและเปิดกว้าง
เด็กที่ได้เรียนรู้กับเพื่อนต่างชาติจากหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา จะมีทัศนคติที่กว้างไกล เปิดรับความหลากหลาย มีความเข้าใจโลก และมีความมั่นใจในการแสดงออกอย่างมีเหตุผล
6. เส้นทางอาชีพที่เปิดกว้างระดับโลก
การมีประวัติการเรียนในออสเตรเลียช่วยให้เด็กมีความน่าเชื่อถือในสายตาของมหาวิทยาลัยและนายจ้างทั่วโลก เพราะระบบการศึกษาของออสเตรเลียได้รับการยอมรับอย่างสูง และเน้นทักษะที่ใช้ได้จริงในโลกการทำงาน
การเรียนต่อมัธยมในออสเตรเลีย หรือ นิวซีแลนด์ ไม่ใช่แค่การไปเรียนหนังสือ แต่คือการเตรียมตัวเข้าสู่โลกอนาคตอย่างเป็นระบบ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง เป็นการปูพื้นฐานให้ลูกหลานของคุณก้าวไปเป็น “พลเมืองโลก” ได้อย่างมั่นใจ
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการปรึกษาเรื่องการเลือกโรงเรียนหรือแผนระยะยาว พี่ๆ ทีม IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกโรงเรียน การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการดูแลชีวิตนักเรียนที่นั่นค่ะ