ติดต่อเรา:

ติดต่อเรา:

Aston University

สำหรับ วันนี้ พี่ๆ IEC Abroad ขอมาแนะนำ น้องๆที่สนใจจะกำลังวางแผนอยากไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ให้ไป เรียนต่อ Aston University  มหาวิทยาลัยชั้นนำยอดนิยม ใจกลางเมือง Birmingham เมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในสหราชอาณาจักร รู้แบบนี้แล้ว มาทำความรู้จักกับมหาวิทยาลัยกันดีกว่าค่ะ

Aston University เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองBirmingham ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดย Queen Elizabeth II และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมหาวิทยาลัยอย่างเต็มรูปแบบโดย The Royal Charter เมื่อปี ค.ศ. 1966 โดยทางมหาวิทยาลัยได้ทำการเปิดสอนหลักสูตรปูพื้นฐานสำหรับบนักเรียนชาวต่างชาติ หลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและการวิจัย ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโททั้งหมดกว่า 14,000 คน อีกทั้งมีผลงานด้านการวิจัยที่โดดเด่นจนติดอันดับต้นๆของตารางการจัดอันดับ Research Excellence Framework หรือ REF ในปี 2014 ซึ่งงานวิจัยของ Aston University กว่า 78% ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพระดับ World Class นอกจากนี้ Aston University ยังถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำและเป็นหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก The Best “Golden Age” Universities in the world โดย Time Higher Education World University Ranking ในปี 2017

ทำไมต้อง เรียนต่อ Aston University ?

  • Triple accreditation จาก AACSB, AMBA และ EQUIS
  • อันดับที่ 56 โดย Times University Guide
  • อันดับที่ 43 โดย Guardian University Guide
  • อันดับที่ 85 ด้าน Business & Economics
  • Top 100 ด้าน Business & Management Studies
  • Top 200 ด้าน Accounting & Finance

สาขาวิชาที่น่าสนใจ

  • Business
  • Logistics
  • finance
  • Accountancy
  • Biomedical Engineering
  • MBA

ทุนการศึกษา

  • Vice Chancellor’s International Scholarship – £8,000
  • Global Ambassador – £3,000
  • Global Excellent £2,000 – £5,000
  • MBA Scholarships 20-50% off tuition fee

Location

Aston University นั้นตั้งอยู่ที่เมืองBirmingham ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถไฟไปยัง London เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น นอกจากนี้แหล่งช้อปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิงหลักของเมืองยังอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่นาที ในปี ค.ศ. 2015 เมือง Birmingham ยังได้รับการจัดอันดับคุณภาพชีวิตในเมืองโดย Mercer Quality of Living Report ให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอีกด้วย

สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาจากท่าอากาศยาน Birmingham Airport การเดินทางอยู่ในระยะไม่ไกล โดยต่อรถไฟเพียง 20 นาทีจากสถานี Birmingham New Street ส่วนการเดินทางไปยัง London ใช้เวลาเดินทางเพียง 90 นาทีโดยรถไฟ หรือ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ แคมปัส Birmingham ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 10 นาทีจากแหล่งช้อปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิงหลักของเมือง อาหารการกินก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นไปถึงอาหารจีน ไทย เวียดนาม และอาหารอินเดีย อีกทั้งยังมีราคาสมเหตุสมผล เพราะเหตุนี้มหาวิทยาลัยแอสตันจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักศึกษาต่างประเทศ

พี่ๆ IEC Abroad ขอแถมสถานที่ท่องเที่ยว ในเมือง Birmingham ให้ด้วยละกันนะคะน้องๆ อย่าลืมไปเช็คอินกับที่เที่ยวสุดป๊อป ดังนี้ค่ะ

Historic City Centre

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบอร์มิงแฮม Town Hall ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1832 และเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยวิคตอเรีย คล้ายกับวิหารโรมันโครงสร้างอันน่าทึ่งนี้มีลักษณะของ Corinthian column ที่ทำจากหินอ่อน Anglesey 40 แห่ง เป็นจุดศูนย์กลางของวงการดนตรีของเมืองนับตั้งแต่เป็นเจ้าภาพการแสดงครั้งแรกของภาพยนตร์ของเอเมนใน Mendelssohn

พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ Birmingham

พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เบอร์มิงแฮมเปิดเมื่อปีพ. ศ. 2428 ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในลอนดอน สมบัติทางศิลปะของพิพิธภัณฑ์นี้ประกอบด้วยคอลเลกชันของจิตรกร Pre-Raphaelite รวมถึงงานศิลปะจากศตวรรษที่ 17 ถึง 19 และประติมากรรมโดย Rodin และ James Tower นอกจากนี้ยังมีการแสดงที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองรวมถึงการค้นพบทางโบราณคดีย้อนหลังไปถึงยุคหินพร้อมกับความประทับใจ Pinto Collection, กับของเล่น 6,000 บวกและของอื่น ๆ ที่ทำจากไม้

Jewellery Quarter

The Jewellery Quarter เป็นพื้นที่ของเบอร์มิงแฮมที่เต็มไปด้วยประเพณี ที่นี่มีการฝึกอบรมช่างทำเครื่องประดับอัญมณีและช่างเงินจำนวนกว่า 200 แห่งโดยเน้นที่บริเวณใกล้เคียง หอนาฬิกา ที่มุมของ Vyse และ Frederick Streets และรอบโบสถ์ Georgian St. Paul’s

St Philip’s Cathedral

มหาวิหารเซนต์ฟิลิป สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1715 เริ่มมีชีวิตในฐานะที่เป็นโบสถ์ของตำบลและได้รับการยกระดับให้อยู่ในสถานะปัจจุบันในปี ค.ศ. 1905 โบสถ์แห่งนี้ถูกรุกล้ำในระหว่างการโจมตีด้วยระเบิดในปีพ. ศ. 2483 โดยเบิร์นโจนส์ (2427) วิหารถูกสร้างใหม่ในปี 1948 – เป็นจุดเด่นของเบอร์มิงแฮมเลยแหละค่ะ

https://www.aston.ac.uk/

บทความอื่นๆ

Scroll to Top