เรียนต่อระยะสั้น - Summer course - IEC Abroad ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรึกษาฟรีก่อนตัดสินใจ
Driven by

เรียนต่อระยะสั้น – Summer course

สำหรับน้องๆ ที่อยากเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ พัฒนาตัวเอง เปิดประสบการณ์ใหม่ และเตรียมความพร้อมก่อนเรียนต่อในต่างประเทศ คอร์สเรียนระยะสั้นแบบซัมเมอร์ หรือ Summer Course ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมกลางปีหรือปลายปีที่มีเวลาว่างพอสมควร
คอร์สเรียนแบบซัมเมอร์ไม่ได้มีแค่เรียนภาษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกิจกรรมเสริมทักษะ การท่องเที่ยว การฝึกการใช้ชีวิต และการสร้างความมั่นใจก่อนการไปเรียนต่อจริงในอนาคต โดยในแต่ละประเทศก็มีจุดเด่นและบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

การเรียน summer course ในต่างประเทศไม่ได้มีแค่การเรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงคอร์สพิเศษต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะทั้งด้านภาษา วิชาการ และการใช้ชีวิตในต่างประเทศ เหมาะกับน้องๆ ทุกระดับ ตั้งแต่น้องมัธยมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคนว่าอยากได้อะไรจากคอร์สระยะสั้นนี้

โดยทั่วไปแล้ว summer course สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้

เหมาะกับน้องๆ ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เน้นฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน และเพิ่มคลังคำศัพท์ ฝึกพูดกับเพื่อนต่างชาติ และฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์จริง เช่น การซื้อของ การสั่งอาหาร การแนะนำตัวเอง

เหมาะสำหรับน้องๆ ที่มีแผนจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศในอนาคต คอร์สนี้จะเน้นการเขียนเรียงความเชิงวิชาการ การอ่านบทความที่ซับซ้อน การนำเสนองานเป็นภาษาอังกฤษ และการใช้ภาษาในบริบทของการเรียนระดับสูง

เหมาะกับน้องๆ ที่อยากเรียนภาษาไปพร้อมกับทำกิจกรรม เช่น กีฬา ศิลปะ ดนตรี หรือการท่องเที่ยว คอร์สประเภทนี้มักเรียนภาษาในช่วงเช้า และทำกิจกรรมในช่วงบ่ายหรือเย็น เป็นวิธีที่สนุกและไม่น่าเบื่อ

คอร์สนี้เหมาะสำหรับน้องๆ ที่อยากฝึกภาษาและเที่ยวไปในตัว มักจะเรียนในห้องเรียนช่วงเช้า และเดินทางไปยังสถานที่สำคัญในช่วงบ่าย เช่น พิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัย หรือสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ

เหมาะกับน้องๆ ม.ปลายหรือปี 1 ที่อยากลองเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศจริงๆ คอร์สนี้มักจะเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เข้าเรียนในวิชาจริง เช่น ธุรกิจ การแพทย์ วิศวกรรม หรือกฎหมาย รวมถึงทำโปรเจกต์กลุ่ม และเรียนรู้ระบบมหาวิทยาลัยล่วงหน้า

วันนี้พี่ๆ IEC Abroad จะพามาดูกันว่า Summer Course ในแต่ละประเทศมีข้อดีอย่างไร
ค่าครองชีพประมาณไหน และควรสมัครช่วงเวลาใดค่ะ

  • เรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาโดยตรงในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษจริง
  • เมืองต่างๆ อย่าง London, Oxford, Cambridge มีบรรยากาศการเรียนที่เป็นวิชาการ
  • หลักสูตรหลากหลาย มีทั้ง Academic English, IELTS Preparation และ English for Teenagers
  • มีโอกาสเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยดังระดับโลก และใช้ชีวิตในแบบเด็กอังกฤษ
  • ทักษะภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
  • ความมั่นใจในการสื่อสารและการอยู่ต่างประเทศ
  • เพื่อนใหม่จากหลายประเทศทั่วโลก
  • ใบรับรองการเรียนจากโรงเรียนที่ได้มาตรฐาน
  • เรียนภาษาอังกฤษควบคู่กับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น ค่ายผู้นำ ค่าย STEM
  • เมืองใหญ่ที่เหมาะกับการใช้ชีวิต เช่น Vancouver, Toronto
  • ครูผู้สอนมีประสบการณ์และการดูแลนักเรียนต่างชาติอย่างใกล้ชิด
  • พัฒนาทักษะทั้งภาษาและความคิดสร้างสรรค์
  • ความเข้าใจวัฒนธรรมแบบแคนาเดียนที่อบอุ่นและปลอดภัย
  • โอกาสฝึกความกล้าแสดงออกและทำงานเป็นทีม
  • ประเทศที่มีความปลอดภัยและการดูแลนักเรียนต่างชาติที่ดีเยี่ยม
  • หลักสูตรซัมเมอร์เน้นทั้งภาษาและกิจกรรมท่องเที่ยว
  • เมืองยอดนิยม เช่น Sydney, Melbourne, Brisbane
  • ความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
    การเรียนรู้ระบบการศึกษาในออสเตรเลีย
  • ประสบการณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในอนาคต
  • ธรรมชาติสวยงาม บรรยากาศสงบ และผู้คนเป็นมิตร
  • หลักสูตรเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเรียนรู้ผ่านกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น English + Adventure
  • เมืองที่เหมาะกับนักเรียนไทย เช่น Auckland, Wellington, Christchurch
  • ทักษะภาษาอังกฤษผ่านการใช้ชีวิตจริง
  • ความสามารถในการปรับตัวและดูแลตัวเอง
  • ความเข้าใจวัฒนธรรมชาวกีวี และมิตรภาพจากเพื่อนต่างชาติ
  • มีคอร์สภาษาและค่ายวิชาการจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง
  • เน้นทั้งวิชาการ ทักษะชีวิต และการคิดเชิงวิพากษ์
  • มีกิจกรรมเสริม เช่น การไปเยี่ยมชมบริษัทชื่อดังหรือพิพิธภัณฑ์ระดับโลก
  • การเรียนในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายและกระตุ้นการพัฒนาตัวเอง
  • ความเข้าใจระบบมหาวิทยาลัยและชีวิตแบบอเมริกัน
  • โอกาสสร้างเครือข่ายและแนวคิดระดับสากล
  • เรียนภาษาอังกฤษในเมืองที่ทันสมัย สะอาด และปลอดภัย
  • หลักสูตรผสมผสานภาษา วัฒนธรรม และทัศนศึกษาทั่วเมือง
  • สถาบันหลายแห่งใช้ระบบการศึกษาจากอังกฤษหรืออเมริกา
  • ภาษาอังกฤษที่พัฒนาจากสภาพแวดล้อมนานาชาติ
  • ความเข้าใจวัฒนธรรมตะวันออกกลางในแบบร่วมสมัย
  • ความมั่นใจในการใช้ชีวิตในเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ไม่มีคำตอบเดียวที่ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และสไตล์การใช้ชีวิตของน้องๆ แต่ละคน อย่างไรก็ตาม ด้านล่างนี้คือแนวทางเปรียบเทียบข้อดีของแต่ละประเทศ เพื่อช่วยให้น้องๆ เลือกได้ง่ายขึ้นค่ะ

  • อังกฤษ: สำเนียง British แท้ ได้บรรยากาศแบบวิชาการ เหมาะกับน้องที่อยากเรียนต่อสาย Academic
  • อเมริกา: เหมาะกับน้องที่อยากฝึกทั้งภาษาและการคิดแบบ Critical Thinking ในบรรยากาศเสรี
  • แคนาดา: มีความอบอุ่น ปลอดภัย และมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้เลือกมากมาย
  • ออสเตรเลีย: เมืองสวย ทันสมัย ใกล้ไทย เดินทางสะดวก มีหลักสูตรให้เลือกหลายระดับ
  • นิวซีแลนด์: ธรรมชาติสวย อากาศดี เรียนแบบสบายๆ แต่ได้ฝึกภาษาในชีวิตจริงแบบไม่กดดัน

เหมาะกับน้องที่อยากเปิดโลกกว้าง สัมผัสความหรูหราและระบบการศึกษาแบบตะวันตกในเมืองตะวันออก
สภาพแวดล้อมปลอดภัย มีสถาบันนานาชาติหลายแห่ง และเรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศนานาชาติจริงๆ

  • ทั้ง 3 ประเทศนี้มีหลักสูตรคุณภาพดี ราคาไม่แรงมาก และค่าใช้จ่ายในการกินอยู่สมเหตุสมผล
  • อีกทั้งยังมีตัวเลือกคอร์สตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป ทำให้วางแผนได้ยืดหยุ่น

การเรียนซัมเมอร์คอร์สไม่เพียงแค่เรียนภาษา แต่น้องๆ จะได้ประสบการณ์ที่มีคุณค่าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัว การสื่อสาร การอยู่ร่วมกับคนหลากหลายวัฒนธรรม และการเรียนรู้ชีวิตจริงในต่างแดน หากน้องๆ คนไหนกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในช่วงปิดเทอม การเรียนระยะสั้นในต่างประเทศคือตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าลองค่ะ หากน้องๆ คนไหนสนใจปรึกษาเพิ่มเติม สามารถทักมาปรึกษาพี่ๆ IEC Abroad ได้เลยนะคะ

บทความอื่นๆ

ปรึกษา IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

.
Blog Footer

.
Scroll to Top