ติดต่อเรา :

เปรียบเทียบ A-level / IB / BTEC / Foundation ควรเรียนอะไรดี?

การเลือกเส้นทางการศึกษาสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในสหราชอาณาจักรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยหลักสูตรที่นิยมได้แก่ A-level, IB, BTEC, และ Foundation แต่ละหลักสูตรมีลักษณะเด่นและเหมาะกับนักเรียนที่มีเป้าหมายและความถนัดที่ต่างกัน วันนี้พี่ๆ IEC Abroad เลยขอมาพูดถึงจุดเด่นของแต่ละหลักสูตร เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ ที่กำลังหาข้อมูลอยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ

1. A-level (Advanced Level)

เหมาะสำหรับใคร:

  • นักเรียนที่สนใจเรียนในสาขาวิชาการ เช่น แพทยศาสตร์, กฎหมาย, วิศวกรรมศาสตร์
  • มีเป้าหมายในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำ

จุดเด่น:

  • หลักสูตร 2 ปี ที่เน้นความลึกของวิชาที่เลือกเรียน (3-4 วิชา)
  • ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
  • เหมาะสำหรับการเรียนต่อในคณะที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ระบบการเรียนและการประเมินผล

  • Year 12 (AS Level):
    ปีแรกของ A-Level นักเรียนจะเรียนวิชาเฉพาะพื้นฐาน
  • Year 13 (A2 Level):
    ปีที่สองจะเน้นการเรียนเชิงลึก พร้อมการสอบ Mock Test และ สอบไฟนอลที่สำคัญ

การประเมินผล

  • สอบไฟนอลในแต่ละวิชา คะแนนจะแบ่งเป็นเกรดตั้งแต่ A* ถึง E
  • คะแนนเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย

A-Level เป็นหลักสูตรที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเรียนที่ต้องการเน้นศึกษาในสายวิชาที่ชัดเจน และต้องการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK และระดับโลก ด้วยโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและเข้มข้น นักเรียนจะได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการประสบความสำเร็จในอนาคต

2. IB (International Baccalaureate)

เหมาะสำหรับใคร:

  • นักเรียนที่ชอบการเรียนหลากหลายสาขาและต้องการพัฒนาทักษะรอบด้าน
  • มีเป้าหมายเรียนต่อทั้งในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ

จุดเด่น:

  • หลักสูตร 2 ปี ที่ครอบคลุม 6 วิชา (ทั้งวิทย์, ศิลป์ และคำนวณ) พร้อมโครงงานวิจัยและกิจกรรม CAS (Creativity, Activity, Service)
  • เน้นการพัฒนาความคิดเชิงวิพากษ์และการจัดการเวลา
  • ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก

โครงสร้างหลักสูตร

  1. 6 กลุ่มวิชาหลัก
    • กลุ่ม 1: ภาษาและวรรณกรรม
    • กลุ่ม 2: ภาษาเพิ่มเติม (ภาษาต่างประเทศ)
    • กลุ่ม 3: มนุษยศาสตร์ (เช่น เศรษฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์)
    • กลุ่ม 4: วิทยาศาสตร์ (เช่น ชีววิทยา, เคมี, ฟิสิกส์)
    • กลุ่ม 5: คณิตศาสตร์ (Mathematics: Applications and Interpretations หรือ Analysis and Approaches)
    • กลุ่ม 6: ศิลปะ (หรือเลือกวิชาจากกลุ่ม 1-5 แทน)
  2. องค์ประกอบหลัก 3 ส่วน
    • Theory of Knowledge (TOK): สอนการวิเคราะห์ความรู้และตั้งคำถามอย่างมีเหตุผล
    • Extended Essay (EE): งานวิจัยเชิงลึกในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ
    • Creativity, Activity, Service (CAS): กิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต

ระบบการประเมินผล

  • คะแนนรวมสูงสุด: 45 คะแนน
    • 42 คะแนนมาจากวิชาหลัก (แต่ละวิชาได้สูงสุด 7 คะแนน)
    • 3 คะแนนจาก TOK, EE และ CAS
  • คะแนนขั้นต่ำสำหรับการจบหลักสูตร: 24 คะแนน

IB เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาความรู้รอบด้าน พร้อมทักษะชีวิตที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ หลักสูตรนี้ช่วยให้นักเรียนเตรียมพร้อมทั้งในด้านวิชาการและการใช้ชีวิตจริง ทำให้มีความพร้อมสำหรับการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลก

3. BTEC (Business and Technology Education Council)

เหมาะสำหรับใคร:

  • นักเรียนที่สนใจเรียนแบบปฏิบัติ เช่น ธุรกิจ, IT, การออกแบบ, และวิศวกรรม
  • มีเป้าหมายเริ่มต้นอาชีพเร็วหรือเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่เน้นสายวิชาชีพ

จุดเด่น:

  • หลักสูตรเน้นการปฏิบัติและการทำโปรเจกต์
  • เหมาะสำหรับนักเรียนที่ไม่ถนัดการสอบแบบทฤษฎี
  • สามารถเรียนต่อระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาชีพเฉพาะได้

โครงสร้างของ BTEC

  • BTEC Firsts: หลักสูตรที่เหมาะสำหรับนักเรียนในระดับมัธยมต้น ที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาแค่ทักษะพื้นฐาน
  • BTEC Nationals: หลักสูตรสำหรับนักเรียนที่จบระดับมัธยมปลาย มี 2 ระดับ คือ
    • BTEC Extended Certificate (เทียบเท่า A-Level 1 วิชา)
    • BTEC Diploma (เทียบเท่า A-Level 2 วิชา)

BTEC Nationals เน้นวิชาชีพที่สามารถใช้ในการทำงานได้ทันทีหรือต่อยอดในการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย

BTEC เหมาะสำหรับนักเรียนที่สนใจเรียนรู้ในสายวิชาชีพและต้องการทักษะที่สามารถนำไปใช้ในตลาดงานได้ทันที หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการฝึกทักษะการทำงานจริงในด้านต่างๆ เช่น วิศวกรรม การออกแบบ การดูแลสุขภาพ และธุรกิจ พร้อมโอกาสในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก

4. Foundation Programme

เหมาะสำหรับใคร:

  • นักเรียนที่ต้องการทางลัดเข้าสู่มหาวิทยาลัย
  • ผู้ที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ด้านวิชาการหรือภาษาอังกฤษสำหรับเข้าปริญญาตรี

จุดเด่น:

  • หลักสูตร 1 ปี ที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับมหาวิทยาลัย
  • มีความยืดหยุ่นในการเลือกวิชา
  • ช่วยให้นักเรียนปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาในสหราชอาณาจักร

โครงสร้างของ Foundation Programme

  • ระยะเวลา: หลักสูตร Foundation โดยทั่วไปใช้เวลา 1 ปี (9-12 เดือน)
  • การเรียนการสอน: การเรียนใน Foundation จะประกอบด้วยการเรียนในห้องเรียน การทำโปรเจกต์ กลุ่มอภิปราย และการฝึกปฏิบัติ
  • การประเมินผล: การประเมินผลจะมาจากการสอบในบางวิชา การทำโปรเจกต์ และการเขียนรายงาน

Foundation Programme เป็นหลักสูตรที่เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี โดยเฉพาะนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ หลักสูตรนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมความรู้ในสาขาวิชาเฉพาะ แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญในระดับมหาวิทยาลัย เช่น การคิดวิเคราะห์ การเขียนวิจารณ์ และการทำงานกลุ่ม

ตารางเปรียบเทียบ

คุณสมบัติA-levelIBBTECFoundation
ระยะเวลาเรียน2 ปี2 ปี1-2 ปี1 ปี
วิธีการเรียนทฤษฎีเชิงลึกทฤษฎี + ปฏิบัติปฏิบัติ + โปรเจกต์เตรียมมหาวิทยาลัย
เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัยชั้นนำมหาวิทยาลัยทั่วโลกสายวิชาชีพนักเรียนที่ต้องการทางลัด
หรือรู้pathwayของตัวเองแล้ว
ระดับความเข้มข้นสูงสูงปานกลางปานกลาง

การเลือกเรียน A-level, IB, BTEC หรือ Foundation ขึ้นอยู่กับความถนัดและเป้าหมายของนักเรียนแต่ละคน หากคุณต้องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำ A-level และ IB อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ในขณะที่ BTEC และ Foundation เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ยืดหยุ่นหรือเน้นสายวิชาชีพ สามารถทักเข้ามาปรึกษาพี่ๆ IEC Abroad ก่อนได้เลยนะคะ

บทความอื่นๆ

ปรึกษา IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

.
Blog Footer

.
Scroll to Top