บทสัมภาษณ์น้องเต๋า – ศิษย์เก่า CATS Academy Boston

วันนี้พี่ๆ IEC Abroad ขอหยิบบทสัมภาษณ์ น้องเต๋า ศิษย์เก่า CATS Boston โดยน้องเคยได้ทุน IVY League จาก CATS Boston และตอนนี้น้องเรียนที่ MIT แล้ว คิดว่าบทสัมภาษณ์นี้ น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย สำหรับน้องๆ ที่กำลังสนใจเรียนต่อที่ US ค่ะ แอบกระซิบว่าตอนนี้ที่ CATS Boston ก็ยังแจก Academic Scholarship สูงสุดถึง 50% ค่ะ

CATS Academy Boston เป็นโรงเรียนมัธยมนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงด้านคุณภาพการศึกษาระดับสูง และการเตรียมนักเรียนสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก

จุดเด่นของ CATS Academy Boston

1. ทำเลที่ตั้งยอดเยี่ยม
  - - ตั้งอยู่ใกล้เมืองบอสตัน หนึ่งในศูนย์กลางการศึกษาและเทคโนโลยีของโลก
  - - แวดล้อมด้วยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, MIT, และ Boston University

1. หลักสูตรที่หลากหลาย
  - - หลักสูตร Advanced Placement (AP) ให้โอกาสนักเรียนเรียนล่วงหน้าเพื่อนำไปใช้ต่อในระดับมหาวิทยาลัย
  - - การเรียนการสอนเน้นเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา

1. ความสำเร็จของนักเรียน
  - - นักเรียนกว่า 70% ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยใน Top 100 ของโลก
  - - มีประวัติส่งนักเรียนเข้าเรียนใน Ivy League เช่น Harvard, Yale และ Columbia

1. การสนับสนุนสำหรับนักเรียนนานาชาติ
  - - มีทีมที่ปรึกษาส่วนตัวช่วยในการสมัครมหาวิทยาลัย
  - - โปรแกรมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ (ESL) สำหรับนักเรียนที่ต้องการเสริมภาษา

1. ชุมชนที่อบอุ่นและหลากหลาย
  - - มีนักเรียนจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
  - - ส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

1. สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย
  - - หอพักที่ปลอดภัยและมีความสะดวกสบาย
  - - ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ศูนย์ศิลปะ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาระดับมืออาชีพ

สัมภาษณ์ น้องเต๋า Waris (Willy)

น้องเรียน Grade 11 นะคะ น้องเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับทุน 100% จากทั่วโลกค่ะ มีน้องนักเรียกอีก 2 คนที่ได้รับทุนนี้เช่นกันค่ะ มากจากประเทศอาเซอร์ไปจาน และ ประเทศโมรอคโค ที่ CATS Academy Boston มีนักเรียนไทย 12 คน เด็กชาติอื่นๆก็มีมากมายเช่น เวียดนาม จีนละตินอเมริกาค่ะ

เรื่องระบบการเรียนที่ CATS Academy Boston ก็จะเป็น prep school เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียน ให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา จะมีตัวแทนมหาวิทยาลัยมาที่โรงเรียนเสมอเพื่อให้นักเรียนได้พูดคุยสอบถาม เตรียมความพร้อมก่อน admissions ค่ะ

ขณะนี้น้องเต๋าเรียน AP 3 วิชา: Calculus, Physics, และ US history น้องเล่าว่า การจะลงเรียนได้ในแต่ละวิชา นักเรียนจะต้องสอบวัดระดับก่อน

วิชาที่น้องคิดว่ายากสำหรับน้องคือ US History สาเหตุที่น้องเลือกเรียนวิชานี้เพราะว่าคุณครูบอกว่าน่าเรียน เลยลงเรียน เป็นเหตุผลที่ตลกดี น้องก็หัวเราะต่อ

น้องเต๋าได้แชร์เรื่องความสนใจในการเรียน AP วิชา Physics กับ Calculus ให้ฟังว่า ตนเองสนใจด้านการเรียนเรื่องการคำนวณในเรื่องของความเร่งที่ไม่คงที่ การลงเรียน AP จะได้เรียนในส่วนนี้ ซึ่งตรงกับความสนใจของน้องเลยค่ะ น้องได้ยกตัวอย่าง ความเร่งที่ไม่คงที่ เพื่ออธิบายให้พี่โอ้เข้าใจ เช่น การขับรถ และเหยียบคันเร่งไม่สม่ำเสมอ จะทำให้ความเร็วผกผันตามไปด้วย ซึ่งวิชา Calculus จะสามารถตอบคำถามตรงนี้ได้เลยค่ะ …. ยากดีเนอะ พี่โอ้มึนเลยค่ะ

ทาง CATS เค้าก็จะจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กเข้าไปแสดงศักยภาพทางการเรียนด้วยนะคะ เมื่อสัปดาห์กลางเดือนตุลาคม 2019 โรงเรียนก็ได้เข้าร่วมโครงการ L3 innovation Challenge น้องเต๋าและเพื่อนจาก CATS ด้วยกันก็ไปที่ Lab Central (co working space) โดยโครงงานนี้ คือการร่วมมือกับบริษัท Bose เพื่อช่วยพัฒนาอุปกรณ์ช่วยเด็กที่มีปัญหาด้านการฟัง โคงงานนี้ก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อยู่ค่ะ และรอบล่าสุดน้องๆก็ได้ไปสถานที่ของ MIT เพื่อทำ lab ของโครงการนี้ค่ะ

ในเรื่องของวิชาเลือก (Elective) น้องเต๋าเลือก Law และ Game Theory คือเป็นวิธีวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของการเล่นเกมส์ น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ

พอคุยกันเยอะก็เริ่มคิดว่า เอ๊ะ ถ้าน้องที่ไม่เก่งมาก จะมาเตรียมพร้อมที่นี่ จะได้ไหม ในส่วนนี้น้องเต๋าบอกว่า ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะการเรียนที่นี่ดีเพราะแบ่งการเรียนมีหลายระดับ นักเรียนสามารถเลือกตามระดับความสามารถตัวเองก่อนได้ และเพิ่มระดับได้เมื่อพร้อมค่ะ ทำให้นักเรียนสามารถปรับตัวได้ง่าย สำหรับน้องเต๋าเอง ตอนนี้ก็เริ่มฟังภาษาสเปนได้แล้วค่ะ อันนี้เป็นการปรับตัวเองนะคะ 555

ถามถึงเป้าหมายการต่อมหาวิทยาลัย น้องก็คิดไว้ว่า คงทำนอง Engineering ค่ะ แต่มหาวิทยาลัยไหน ยังไม่แน่ใจ ก็รอลุ้นเอาใจช่วยกันต่อไปนะคะ

มานอกเรื่องการเรียนกันบ้างนะคะ

สิ่งที่น้องเต๋าชอบมากสุดใน CATS Boston คือ…. อาหารอร่อย ที่อยู่ดี ห้องพักมีห้องน้ำในตัว ตึกสะอาดใหม่ การดูแลตัวเองก็ไม่ได้ยากเลยถึงแม้จะต้องซักผ้าเอง น้องบอกว่า เป็นคนที่ชอบอาหารฝรั่ง แป้งๆ เนื้อๆ อยู่แล้ว เข้าทางเลยค่ะ แต่ถ้าอยากกินอะไรนอกเหนือจากที่โรงอาหารโรงเรียนก็สามารถสั่ง Uber Eat มาได้เลย สบายมากๆๆค่ะ กิจกรรมอื่นๆ นอกจากการเรียนของน้องเตำคือ เล่นบอล แต่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำโปรเจคของตัวเองมากกว่าค่ะ มีเล่นบาสบ้าง น้องบอกว่าที่นี่ไม่มีบังคับวิชาพละศึกษาแบบบ้านเรา ถูกใจน้องเลยค่ะ

กิจกรรมวันเสาร์อาทิตย์ ก็มีไปเดินเที่ยวในห้างกับเพื่อนๆบ้าง ละแวกเมือง Braintree นี้ก็มีห้างด้วยนะคะ ชื่อ Southshore วันนี้น้องก็ไปกับเพื่อนๆ เค้าไปซื้อกันหนาวกันมาค่ะ

ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ น้องก็ได้ไปเที่ยว Boston Downtown, Upstate NYC ไปกับ trip โรงเรียน ในโปรแกรม Scholar จริงๆแล้วน้องเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ก็หากมีเวลาก็จะพยายามไปเที่ยวเพิ่มมาขึ้น คงจะเริ่มจากใน Boston ก่อน เพราะก็ยังไปไม่ครบเลย

เรื่องตลกของที่โรงเรียน Cats Academy Boston คือ น้องนักเรียนทุกคน ต้องอ่านหนังสือ เรียกว่า Study Hour ตั้งแต่ 19:30-21:30 pm

น้องเต๋าเล่าว่า Dorm Parents จะเป็นคนตรวจเช็คตลอด โดนมีเงื่อนไขว่า หากเกรดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว ก็จะปิดประตูอ่านหนังสือได้

แต่หากคะแนน หรือเกรดยังไม่ดี จะต้องเปิดประตูไว้ แล้ว Dorm Parents จะเป็นเดินดูเช็คว่านักเรียนอ่านอยู่หรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ขำขันกันไปค่ะ เพราะที่โรงเรียนอื่น อาจจะไม่ได้มีอะไรแบบนี้

เรื่องอื่นๆ ที่น้องเต๋าเองก็กำลังศึกษา และอยากแชร์ให้กับคนที่เตรียมตัวมาเรียน High School in the US:

น้องเต๋าบอกว่า ความจริงการเรียนหนังสือในห้องเรียนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วการเข้า top university ในประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านกระบวนการ admissions ของแต่ละมหาวิทยาลัย ยังมีอีกหลายๆปัจจัยในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียน มุมมองของน้องเต๋าคือ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการคนที่แตกต่างจริงๆ นั่นก็คือ extra curriculum น้องเต๋ายกตัวอย่างว่า เพื่อนเค้าที่เป็น เป็นประธานรุ่นที่เรียนที่ CATS Academy Boston ด้วยกัน เป็นชาวบราซิล ทุกวันเค้าจะตื่นเช้ามากๆ เพื่อแบบสอนภาษาอังกฤษ online ให้กับคนบราซิลที่ประเทศบราซิล อันนี้จะบอกได้ถึงความตั้งใจ ที่ต้องการช่วยเหลือคนอื่น ที่มากกว่าการตั้งใจเรียนในห้องเรียน และมีเพื่อนอีกคนหนึ่ง ก็พยายามทำ laundry application เพื่อนักเรียนในหอพักจะได้ไม่ต้องมานั่งรอ กังวลว่าผ้าที่ตัวเองเอาไปซักจะเสร็จเมื่อไร หรือ คนที่รอคิว จะได้รู้ว่าตัวเองจะเริ่มซักได้เมื่อไร จากสองตัวอย่างนี้ จะเป็นการบอกมุมมอง ทัศนคติของนักเรียนให้กับมหาวิทยาลัยที่ไปสมัครเรียนต่อได้อย่างดีเลยทีเดียว และสามารถเอาไปเขียนใน college essay* ได้เมื่อสมัครเรียนค่ะ

น้องเต๋าฝากทิ้งท้ายไว้ก่อนจะแยกย้ายไปทานข้าวเย็น

อยากให้เราทุกคนคิดว่า

- ทำไมมหาวิทยาลัย อยากได้คุณ

- หากคุณได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนแล้ว คุณจะทำอะไรให้กับมหาวิทยาลัย

สองประโยคข้างบนนี้ หากมองในเชิงธุรกิจ ก็จะเห็นได้ว่า การศึกษาก็คือการลงทุน – เราตั้งใจลงทุนกับการเรียนในมหาวิทยาลัยมากขนาดไหน และ มหาวิทยาลัยก็อยากจะเลือกเราเข้าไปลงทุนด้วยมากขนาดไหน – ดังนั้น ตัวเราต้องทำตัวเองให้พร้อมเป็นสิ่งที่น่าลงทุนด้วยที่สุด

สุดท้ายท้ายสุด คือ น้องยังไม่มีแฟนนะคะ 🙂

* College Essay – การเขียนเรียงความที่เป็นองค์ประกอบในการพิจารณารับเข้าเรียนของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา

ก่อนจากกันไป ขอแถมภาพบรรยากาศโรงเรียน เมื่อพี่โอ้ IEC Abroad ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียนค่ะ