เมื่อพูดถึงประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเรียนและนักท่องเที่ยว พี่เชื่อว่าแคนาดาเป็นหนึ่งในชื่อที่ใครหลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน วันนี้พี่โอ้และ IEC จึงขออาสาพาน้อง ๆ ไปดูความสวยงามและความสนุกสนานของกิจกรรมในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดากันค่ะ

ช่วงนี้แวนคูเวอร์กำลังอยู่ในฤดูกาล Spring อากาศเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาว แสงแดดอุ่นกำลังดี ไม้ต้นไม้ดอกผลิบานไปทั่วทั้งเมือง ถ่ายรูปออกมาสวยถูกใจสายอินสตาแกรมแน่นอน

เริ่มต้นการสำรวจในวันนี้ เราจะมาซื้อบัตรเดินทางกันก่อนค่ะ โดยบัตรเดินทางของที่นี่เรียกว่า Compass Card ที่ถือแค่ใบเดียวก็สามารถเดินทางได้ในทุกระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่รถไฟฟ้า รถบัส รถไฟ West Coast Express และเรือโดยสาร Sea Bus

หลังจากซื้อบัตรเดินทางมาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาเริ่มสำรวจแวนคูเวอร์กันค่ะ

จุดแรกที่อยากให้ทุกคนเห็นคือตรงท่าเรือข้ามฟาก มองออกไปจะเห็นวิวฝั่ง North Vancouver สวยงามมาก สามารถมาเดินเล่นรับลมและแสงแดดกันได้

การข้ามไปฝั่ง North Vancouver ที่นี่จะมีเรือโดยสาร SeaBus ไว้ให้บริการนะคะ สามารถใช้ Compass Card จ่ายค่าเดินทางได้เลย

ในตอนอยู่บนเรือ จะเห็นวิวเมืองสวย ๆ จากสองฝั่งแบบนี้ค่ะ

Digital Orca ประติมากรรมวาฬเพชฆาตตัวใหญ่ที่สร้างโดย Douglas Coupland เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่มีนักท่องที่ยวแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปตลอด

Stanley Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ หนึ่งในสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาด ด้วยทางเดินที่ทอดยาวไปกับ English Bey ระหว่างทางจะได้ชมต้นไม้พื้นเมืองและสัตว์หลากหลายชนิด รวมทั้งไม้ดอกพืชพรรณต่าง ๆ ที่จัดไว้อย่างสวยงาม รับรองว่าเดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน

ออกมาจาก Stanley Park ไม่ไกลมาก จะเจอกับอาคาร Vancouver Convention Centre โคมไฟของอาคารโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่ยังไม่เข้าไปด้านในเลยทีเดียว

ถัดมาเป็น Canada Place แลนด์มาร์คสำคัญอีกหนึ่งแห่งของที่นี่ นอกจากจะเป็นท่าจอดเรือสำราญแล้ว ด้านในยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ประชุมและศูนย์การค้าขนาดใหญ่อีกด้วย

ตรงนี้วิวกลางคืนก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลยค่ะ

ออกจากโซนท่าเรือ เรามาเดินดูบรรยากาศในเมืองกันบ้างค่ะ แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีความอาร์ตสูงมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน เราก็จะได้เห็นผลงานศิลปะและของประดับตกแต่งน่ารัก ๆ เต็มไปหมดเลย

Gastown stream clock นาฬิกาโบราณที่ใช้ระบบไอน้ำ ปัจจุบันก็ยังเดินบอกเวลาอยู่

หุ่นกวางมูส สัตว์ประจำถิ่นของพื้นที่แถบนี้ ใครเจอเจ้าตัวนี้สามารถเข้าไปถ่ายรูปกันได้ แต่ถ้าเจอตัวจริง อย่าเข้าใกล้นะคะ

Public library ห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าใช้บริการ ข้างในมีโครงสร้างแยกออกเป็นสัดส่วน มีความโปร่งโล่งสบาย แสงแดดส่องถึง บรรยากาศดีเหมาะกับการอ่านหนังสือมาก ๆ

Science Museum ตั้งอยู่โดดเด่นมากค่ะ ในทริปนี้พี่ ๆ ไม่ได้เข้าไปด้านใน เลยเก็บภาพจากมุมที่รถไฟวิ่งผ่านมาฝากกันค่ะ

มาถึง Whistler เมืองขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ มีภูเขาขนาดใหญ่ที่เราสามารถขึ้นไปเล่นสกีหิมะและปีนเขาได้ตามฤดูกาล ในเมืองด้านล่างก็มีร้านอาหาร ร้านของฝาก ของที่ระลึก และมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะมาก ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยค่ะ

ข้างในมีรูปปั้นที่สื่อถึง Indigenous peoples ซึ่งเป็นชนพื้นเมือง บรรพบุรุษของคนของแถบนี้

ร้านสปาเก็ตตีชื่อดัง The Old Spaghetti Factory ใครไปก็ต้องแวะชิม

ร้านขนมหวานที่นี่มีขนมหลายแบบ โดยเฉพาะ candy coated apple ที่มีรสชาติและทอปปิ้งให้เลือกเยอะมาก

ร้านของฝากที่นี่มีของน่าสนใจเยอะเลยค่ะ มีหมวกสวย ๆ หลายแบบ หรือถ้าใครชอบพกของจุกจิกชิ้นเล็ก ๆ พวงกุญแจของที่นี่ก็ตอบโจทย์นะคะ

Whistler Olympic Park แลนด์มาร์คสำคัญอีกที่นึง ถูกใช้เป็นพื้นที่แข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูกาล Winter ในปี 2010

ถ้ามาในช่วงที่มีหิมะ เราสามารถขึ้นไปสกีบนภูเขาด้านหลังได้ด้วย แต่กิจกรรมนี้จะไม่ได้เปิดให้เล่นได้ทั้งปีนะคะ จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม โดยเราจะนั่งเคเบิลคาร์จาก Excalibur Gondola ขึ้นไปด้านบน น้อง ๆ คนไหนเล่นไม่เป็นหรือเล่นไม่เก่งก็ขึ้นมาสนุกกับเพื่อน ๆ ได้ เพราะที่นี่มีครูสอนสกีคอยดูแลอยู่ค่ะ

วิวข้างบนดีมาก ช่วงที่ไปถึงยังมีหิมะหนาอยู่ เล่นสกีกันได้สบาย ๆ

เดินเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว เรามานั่งชมวิวสวย ๆ ระหว่างทางขากลับออกจากแวนคูเวอร์กันค่ะ ช่วงนี้ธรรมชาติเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์แล้ว ท้องฟ้าโปร่ง บรรยากาศดีมากเลยค่ะ

น้อง ๆ คนไหนที่ชอบความสวยงามและความมีชีวิตชีวาของที่นี่ พี่ขอกระซิบนิดนึงว่า Whistler เป็นที่ตั้งแคมปัสหนึ่งของ Tamwood International College ซึ่งมีโปรแกรม co-op ด้วยนะคะ ถ้าใครสนใจรีบติดต่อพี่ ๆ IEC Abroad เข้ามาได้เลยน้า