เที่ยวดูไบ 2025 กับพี่ๆ IEC Abroad - IEC Abroad ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรึกษาฟรีก่อนตัดสินใจ
Driven by
เที่ยวดูไบ 2025

เที่ยวดูไบ 2025 กับพี่ๆ IEC Abroad

วันนี้พี่โอ้ IEC Abroad ขอมาลิสต์สถานที่เที่ยวใน Dubai ที่ไปได้ไปเยี่ยมชมมา ในช่วงปี 2025 นี้มาฝากน้องๆ ที่กำลังสนใจเลือกดูไบ ในการไปเรียนต่อกันค่ะ โดยเราจะมาพูดถึงสถานที่ที่คิดว่าควร เก็บให้ครบถ้าได้ไปดูไบ ดังนี้ค่ะ

  • Bluewaters ชิงช้าสวรรค์ Dubai Eye ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก
  • Dubai Mall ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมี Dubai Aquarium ที่มีตู้กระจกอะคริลิกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
  • Desert Safari สมัครเรียนกับ ES Dubai 16 สัปดาห์ขึ้นไป แถมฟรี ! ทริปทะเลทรายค่ะ 
  • Dubai Frame เฟรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก 
  • Za’Abeel Palace พระราชวังของกษัตริย์นครดูไบ
  • Dubai Marina
  • Dubai Old Town
  • Museum of the Future พิพิธภัณฑ์แห่งโลกอนาคต ที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก
  • The View at The Palm จุดชมวิว The Palm สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกยุคปัจจุบัน
  • Dubai Chocolate ขนมสุดไวรัลที่ทุกคนต้องรู้จัก 
  • Cafe + Restaurant ที่น่าไปเช็คอิน

Bluewaters 

Bluewaters Dubai เป็นเกาะเทียมสุดหรูที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Dubai Marina และ JBR (Jumeirah Beach Residence) โดยสามารถเดินเชื่อมต่อได้จากฝั่งเมืองผ่านสะพานคนเดิน บรรยากาศหรู ทันสมัย และวิวทะเลแบบพาโนรามา ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการสัมผัสไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม

Ain Dubai (Dubai Eye) คือจุดเด่นและสิ่งที่น่าสนใจของ Bluewaters Dubai:

  • ความสูงกว่า 250 เมตร
  • มองเห็นวิวเมืองดูไบแบบ 360 องศา ทั้ง Palm Jumeirah, Burj Al Arab, และ Dubai Marina
  • เหมาะกับทั้งตอนกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจบน Bluewaters Island ได้แก่:

  • Ain Dubai: ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก สูงถึง 250 เมตร
  • Madame Tussauds Dubai: พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งแห่งแรกในตะวันออกกลาง มีหุ่นขี้ผึ้งมากกว่า 60 ตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก
  • Delano Dubai: โรงแรมหรูที่มีการออกแบบทันสมัย มีห้องพัก 251 ห้อง และร้านอาหารหลากหลาย เช่น Blue Door, Gohan และ La Cantine
  • ร้านอาหารและคาเฟ่: มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย เช่น Clay ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์เปรู-ญี่ปุ่น และ The Spaniel ที่มีอาหารยุโรปคลาสสิก
  • แหล่งช้อปปิ้ง: มีร้านค้าหลากหลาย เช่น Beyond the Beach, Camel Company และ Mumuso

การเดินทางไป Bluewaters จริงๆ แล้วสามารถเดินข้ามสะพานเชื่อมจาก Dubai Marina ไปได้ หรือ นั่งรถข้ามไปได้ค่ะ บริเวณ Bluewaters มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และแหล่งชอปปิ้ง เรียกได้ว่า เดินเล่น ขึ้นชิงช้า กินข้าว ชิวๆ ได้ตรงนั้นเลย เป็นจุดเดินเล่น ถ่ายรูปอีกที่ ที่แนะนำให้ไปค่ะ 

Burj Khalifa 

รอบที่แล้ว พี่บีได้ Review ที่นี่ไปแล้ว Burj Khalifa คือหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของดูไบ และเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ด้วยความสูงกว่า 828 เมตร และมีทั้งหมด 163 ชั้น Burj ยังคงครองแชมป์ ตึกที่สูงที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2010  และ Khalifa ไม่ใช่เพียงแค่ตึกระฟ้า แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งจุดชมวิว ร้านอาหารสุดหรู โรงแรม และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง

สิ่งที่น่าสนใจใน Burj Khalifa

1. At The Top – จุดชมวิวที่ชั้น 124 และ 125

  • ชมวิว 360 องศาของเมืองดูไบ ทะเลทราย และอ่าวอาหรับ
  • มีกล้องส่องทางไกลแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่สามารถดูวิวทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน
  • ราคาตั๋วเริ่มต้นประมาณ 169 AED (อาจมีโปรโมชั่นสำหรับช่วงเวลาเย็นหรือเช้า)

2. At The Top SKY – จุดชมวิวที่ชั้น 148

  • สูงถึง 555 เมตร เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สูงที่สุดในโลก
  • มีเลานจ์ส่วนตัว บริการพรีเมียม และเจ้าหน้าที่ดูแลแบบ VIP
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์ที่พิเศษและเงียบสงบมากขึ้น

3. Armani Hotel Dubai

  • โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ออกแบบโดย Giorgio Armani
  • ตกแต่งสไตล์มินิมอลหรูหรา และตั้งอยู่ในส่วนล่างของ Burj Khalifa
  • มีร้านอาหาร Fine Dining และสปาสุดหรู

4. At.mosphere – ร้านอาหารบนชั้น 122

  • เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลก
  • วิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะสำหรับมื้อค่ำสุดโรแมนติก
  • มีบริการ High Tea และ Fine Dining

5. Burj Khalifa Park และแสงน้ำพุดูไบ (Dubai Fountain)

  • ด้านล่างของ Burj Khalifa คือสวนและทะเลสาบขนาดใหญ่
  • มีโชว์น้ำพุเต้นระบำ (Dubai Fountain Show) ทุกวัน ตั้งแต่ 18:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
  • น้ำพุนี้ออกแบบโดยทีมงานเดียวกับ Bellagio Fountain ที่ลาสเวกัส

การเดินทางไปที่นี่คือ ไปที่ Dubai Mall และซื้อตั๋วขึ้นไปค่ะ

ภาพ Aquarium ใน Dubai Mall – The World’s Largest Mall (เราไปยืนดูตรงจุดที่ฟรีค่ะ ไม่ได้เข้าไป)

เนื่องจากเราไม่ได้ขึ้นไป เพราะทริปแน่นมาก แต่ Burj Khalifa เป็นตึกที่สวยตั้งตระหง่าในดูไบ มองจากตรงไหน ก็มักจะเห็นตึกนี้อยู่เสมอเลยเก็บภาพมาฝากค่ะ 

Desert Safari

กิจกรรนี้จัดโดย โรงเรียน ES Dubai นะคะ และสำหรับน้องๆ ที่ไปเรียน 28 weeks ขึ้นไปก็จะได้ไปสัมผัส Trip Desert Safari ฟรีด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมภาพ Wild Ride Over The Dune กันข้างล่างค่ะ โดยกิจกรรมนี้ จะไปตอนบ่ายๆ เย็นๆ เพื่อจะได้ชมพระอาทิตย์ตกและมีกิจกรรมต่างๆ ด้วย อาทิ ขี่อูฐ, เพนท์เฮนน่า, ขี่รถ ATV, และ โชว์เต้นระบำค่ะ 

การแต่งตัว คือ เอาชุดชิวๆ และ มีผ้าโพกศีรษะไป เพราะลมแรง และผ้าจะเอามาช่วยกันทรายเข้าตาได้ ส่วนรองเท้าก็ใส่รองเท้าแตะได้เลย แต่สามารถเดินเท้าเปล่าได้ค่ะ 

Dubai Frame

Dubai Frame คือหนึ่งในแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและแปลกตาที่สุดของดูไบ ด้วยรูปทรง “กรอบรูปยักษ์” ที่สูงถึง 150 เมตร กว้าง 93 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางสวน Zabeel Park จุดเด่นของที่นี่คือการเป็น “กรอบ” ที่มองเห็นวิวของ ดูไบเก่า (Old Dubai) และ ดูไบใหม่ (New Dubai) ได้พร้อมกันในมุมเดียว

ไฮไลท์ของ Dubai Frame

1. Sky Deck ชั้นบนสุด ทางเดินกระจกใส (Glass Bridge) ยาว 93 เมตร ที่พื้นเป็นกระจกใส ให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ มองเห็นวิวเมืองได้รอบ 360 องศา โดยฝั่งหนึ่งคือวิวตึกระฟ้าแห่ง “New Dubai” (Burj Khalifa, Marina ฯลฯ) อีกฝั่งคือ “Old Dubai” (ย่าน Deira, Dubai Creek, Souk ต่างๆ)

2. Gallery ด้านล่าง – ประวัติศาสตร์ของดูไบ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของดูไบ ตั้งแต่สมัยหมู่บ้านชาวประมง ชาวเร่ร่อน มีเทคโนโลยีมัลติมีเดียให้ความรู้แบบอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งภาพ เสียง และแอนิเมชัน

3. The Future Dubai Gallery หลังจากขึ้นชมวิวแล้ว ก่อนลงลิฟต์กลับ จะผ่านโซนแสดง “อนาคตของดูไบ” ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR/AR) จำลองภาพเมืองดูไบในอีก 50–100 ปีข้างหน้า เช่น ตึกบินได้ รถลอยฟ้า เมืองใต้ทะเล

4. วิวพระอาทิตย์ตก เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชมพระอาทิตย์ตกได้งดงามที่สุดของดูไบ วิวเส้นขอบฟ้า + แสงทองของทะเลทราย = รูปสวยมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 9:00 – 21:00 น. (แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อชมพระอาทิตย์ตก)
  • ราคาตั๋ว: ผู้ใหญ่ประมาณ 50 AED เด็ก 20 AED (ต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี)
  • การเดินทาง: ใกล้สถานี Metro “Al Jafiliya” แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 5 นาที หรือเดินเข้า Zabeel Park Gate 4
  • เวลาที่ใช้เที่ยว: ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง

เราไม่ได้ขึ้นไปค่ะ แต่ก็ไปเก็บภาพ ซึ่งพอได้มาดูใกล้ๆ คืออลังการมากค่ะ

Dubai Old Town

Dubai Old Town หรือที่รู้จักกันในชื่อ Al Fahidi Historical Neighborhood เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดของดูไบ ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นอาหรับดั้งเดิม ทั้งในเรื่องของสถาปัตยกรรม วิถีชีวิต และวัฒนธรรม เหมาะมากสำหรับคนที่อยากสัมผัสความเป็นดูไบในยุคก่อนที่จะกลายเป็นเมืองแห่งตึกสูงหรูหรา

สิ่งที่น่าสนใจใน Dubai Old Town

1. Abaya และของฝากท้องถิ่น ย่านนี้มีร้านขาย Abaya (ชุดประจำชาติของผู้หญิงอาหรับ) หลายร้านให้เลือก ราคาและดีไซน์มีตั้งแต่แบบเรียบหรูไปจนถึงลวดลายปักงดงาม เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการซื้อไว้ใส่เข้าชม Sheikh Zayed Grand Mosque ที่อาบูดาบี

2. Museum of Illusions พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตาที่เล่นกับมุมมอง สายตา และจิตวิทยา มีกิจกรรมถ่ายรูปสนุกๆ ที่หลอกตา เช่น ห้องกลับหัว, อุโมงค์หมุน, ภาพสามมิติ เป็นที่นิยมทั้งสำหรับครอบครัวและสายคอนเทนต์

3. Starbucks สไตล์อาหรับ มีร้าน Starbucks ที่ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์อาหรับดั้งเดิม โทนสีและการตกแต่งภายในไม่เหมือนสาขาอื่น เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม เหมาะกับการนั่งพักจิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศแบบย้อนยุค

4. Al Seef และริมคลอง Dubai Creek เดินต่อไปไม่ไกลจะถึงโซน Al Seef ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งและคาเฟ่ริมน้ำ ได้ฟีลแบบอาหรับผสมโมเดิร์น มีทั้ง Souk, ร้านเครื่องเทศ, เครื่องประดับ, ของแฮนด์เมด

5. ใช้เวลาเดินแบบไว สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก (เช่นแค่ 15 นาที) แนะนำเดินตรงไปดูร้าน Abaya และแวะ Starbucks ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมดินโบราณ หอคอยลม (Wind Tower) และเดินชมบรรยากาศให้ครบฟีล

Museum of the Future

ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานนวัตกรรม ศิลปะ และจินตนาการเข้าไว้ด้วยกัน ตัวอาคารรูปวงรีที่ลอยอยู่เหนือพื้น ถือเป็นสถาปัตยกรรมล้ำยุค สวยสะดุดตา และเป็นที่รู้จักในฐานะ “อาคารที่สวยที่สุดในโลก” โดย National Geographic

จุดเด่นและสิ่งที่น่าสนใจภายใน Museum of the Future

1. การออกแบบอาคาร รูปร่างเป็นวงรีทรงกลวง มีคำกลอนภาษาอาหรับที่สลักบนตัวอาคารด้วยไฟ LED สะท้อนแนวคิดอนาคตและวัฒนธรรมอาหรับ ถูกออกแบบให้เป็น “ห้องทดลองแห่งอนาคต” ทั้งในแง่เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และจินตนาการมนุษย์

2. ธีมการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟ แต่ละชั้นภายในพิพิธภัณฑ์มีธีมเฉพาะ เช่น OSS Hope – การเดินทางสู่อวกาศในปี 2071 ให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์แบบจำลองสถานีอวกาศ พร้อมบทบาทจำลองเสมือนเป็นนักบินอวกาศ The Heal Institute – สำรวจระบบนิเวศของโลกจากมุมมองอนาคต มีการแสดงพันธุกรรมดิจิทัลของพืชและสัตว์ Al Waha – โซนแห่งการเชื่อมต่อระหว่างร่างกาย จิตใจ และเทคโนโลยี ผสมผสานความรู้สึกผ่านการสัมผัสและการฟัง Tomorrow Today – โชว์เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกจริง เช่น หุ่นยนต์ AI, พลังงานทางเลือก, การขนส่งอนาคต

3. พื้นที่สำหรับเด็ก มีโซน Future Heroes ซึ่งเป็นโซนเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการเล่น ส่งเสริมการคิดเชิงสร้างสรรค์ การร่วมมือ และการแก้ปัญหา

4. นิทรรศการหมุนเวียน มักมีการจัดแสดงพิเศษหรือเวิร์กช็อปเกี่ยวกับนวัตกรรม เทคโนโลยีล้ำสมัย และแนวคิดเปลี่ยนโลก

5. ทำเลที่ตั้ง ตั้งอยู่ริมถนน Sheikh Zayed Road ใจกลางย่านธุรกิจของดูไบ ใกล้ Burj Khalifa และ Dubai Mall

การเดินทาง หากมาด้วย Metro ลงที่สถานี Emirates Tower Station เดินเข้ามาทางเชื่อม เพียง 4 นาที ก็ถึง Museum เลย
ต้องทำการจองตั๋วก่อนมานะคะ เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ และรอคิว ประมาณ 30 นาที เป็น Museum ที่สวยและ Popular มากสำหรับนักท่องเที่ยวในตอนนี้ แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2022 แล้วก็ตาม

ราคาตั๋วเข้าชม Museum of the Future (อัปเดตล่าสุด):

  • ผู้ใหญ่ (อายุ 4 ปีขึ้นไป): 149 AED (ประมาณ 1,500 บาท)
  • เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี: เข้าฟรี

ถ่ายจากตึก Emirates Tower

เข้าจากทางเชื่อม Metro

บรรยากาศชั้น 1 ตอนเดินเข้ามา เข้าแถวรอ 30 นาทีคร่าวๆ ค่ะ 

ระหว่างรอ ก็จะเป็น Lift ขึ้นลง เราเริ่มทัวร์แบบเข้าไปที่ชั้น 1 และมารู้ตัวอีกที ก็ถูกส่งขึ้น Lift ไปชั้นบนสุด แต่ว่าไปด้วย Lift ยานอวกาศด้านใน แบบทำให้รู้สึกว่าได้ข้ามไปยังโลกอนาคตเลย และระหว่างรอก็จะมีประติมากรรมปลาสีเงินบินวน เป็นปลาในโลกอนาคตที่ทำให้เราไม่เบื่อที่จะยืนรอเข้าแถวค่ะ 

การทัวร์ก็เริ่มจากชั้นบนสุด และ ลงมาเรื่อยๆ และที่ชั้น 2 แต่คิวยาว เราเลยลงมาข้างล่าง และเก็บภาพภายนอกตึกแทน 

The View at The Palm

เป็นจุดชมวิวบนเกาะ Palm Jumeirah ที่ให้เราได้ชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศาของดูไบจากความสูง 240 เมตร บนชั้น 52 ของตึก The Palm Tower ซึ่งอยู่ติดกับ Nakheel Mall

มีอะไรน่าสนใจที่ The View at The Palm

  • วิว 360 องศา ของ Palm Jumeirah, ทะเลอ่าวเปอร์เซีย, ตึกสูงของ Dubai Marina และ Downtown Dubai
  • จุดถ่ายรูปยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก
  • นิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟ เกี่ยวกับการก่อสร้าง Palm Jumeirah ก่อนขึ้นชมวิว
  • คาเฟ่และร้านของที่ระลึก บริเวณจุดชมวิว
  • The Next Level (ชั้น 54) – พื้นที่ชมวิวแบบ open-air ที่สูงขึ้นไปอีก (ต้องซื้อตั๋วแยก)

ราคาบัตรเข้าชม (โดยประมาณ)

  • Standard Ticket (ชั้น 52): ผู้ใหญ่: 100 AED (ประมาณ 1,000 บาท)
  • เด็ก (อายุ 4–12 ปี): 69 AED
  • เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี: เข้าฟรี
  • The Next Level (ชั้น 54): ผู้ใหญ่: 175 AED
  • เด็ก: 120 AED
  • Fast Track Ticket: เข้าชมแบบไม่ต้องต่อคิวเริ่มที่ 175 AED ขึ้นไป
  • ราคาตั๋วอาจปรับขึ้นในช่วงเวลา Sunset หรือ Peak Time

การเดินทางไป The View at The Palm

1. โดยรถไฟฟ้า Monorail: ขึ้น Palm Monorail จากสถานี Palm Gateway Station ลงที่ Nakheel Mall Station (เชื่อมตรงกับ The Palm Tower)

2. โดยรถแท็กซี่หรือ Uber: ปักหมุดไปที่ “The Palm Tower” หรือ “Nakheel Mall”

3. โดยรถยนต์ส่วนตัว: มีที่จอดรถภายใน Nakheel Mall ให้บริการฟรี

ข้างบนค่อนข้างร้อน แต่ดีมาก เห็นวิวครบ ประทับใจมากเลยค่ะ

Za’Abeel Palace

หรือที่รู้จักกันในชื่อ Zabeel Palace คือพระราชวังของราชวงศ์ดูไบ (ราชวงศ์ Al Maktoum) ซึ่งเป็นที่ประทับหลักของ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม (Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum) ผู้ปกครองดูไบและรองประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เค้าให้เราไปเดินเล่น แต่ร้อนมาก และได้ถ่ายรูปกับรถ Mercedes benz คันนี้แบบงงๆ

Local Food อาหารอารบิกค่ะ ใครสาย Healthy น่าจะชอบนะคะ ร้านนี้อยู่ใน Dubai Mall ค่ะ

Thai Food ก็มีนะคะ ราคาเฉลี่ยอาหารไทยจานละ 200-500 บาทค่ะ แต่อาหารรสชาติดีนะ อร่อยเลยค่ะ 

เป็นเมืองที่รักสัตว์ มีแมว มีหมา น่ารักๆ ในเมืองเยอะค่ะ

Cafe ราคากาแฟ แก้วละประมาณ 100-300 บาท 

Dubai Marina 

เป็นสถานที่ที่ควรมาเดินเล่นริมหาด มีร้านอาหาร คาเฟ่ มากมาย คนนิยมมาเดท เล่นน้ำทะเล หรือดูพระอาทิตย์ตก หรือขึ้นเรือยอร์ชค่ะ ร้านอาหารก็จะมีหลายแบบ จะมีทั้งใน Mall หรือ ริมหาด หรือในโรงแรม เลือกได้เลย เราก็ไปลองมาครบ เก็บภาพมาฝากกันค่ะ 

The Ritz-Carlton Hotel

เมืองที่เห็นรถ Super Car ทุกๆ 1 นาที

ร้าน % Arabica ก็มีนะคะ

กลางคืน และ ร้านอาหารในโรงแรมก็จะแนวนี้ค่ะ 

ภาพล่างคือ เป็นที่จอดเรือ และ หากไปขึ้นเรือ ก็จะได้วิวบรรยากาศระหว่างล่องเรือแบบนี้ค่ะ 

ล่องเรือจบ วิวกลางคืนก็สวยมากเช่นกัน

อีกที่ละแวก Dubai Marina ก็คือ Dubai Marina Mall ไปเดินเล่นหาอะไรทานได้ค่ะ

Chocolate Dubai มันฮิต เราก็ไปหามาทาน คือไปมา 2 ที่ ร้านที่รวมของทุกอย่าง 100 บาท ยี่ห้อที่ดีคือยี่ห้อที่มีเส้น kunafa pistachio แน่น อันที่เราหยิบมาคือดีมาก แบบ เจอโดยบังเอิญ ส่วนอันที่เค้าว่าคือ original คือ ชื่อว่า Fix ต้องไปซื้อที่สนามบิน terminal 3 only ด้วย หรือสั่ง online ค่ะ ราคาแท่งละ 800 บาท แพง งงงงง 555

Gold Market

ตลาดทองดูไบ เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดของเมืองดูไบ และถือเป็นตลาดทองคำที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ในเขต Deira ฝั่งเก่าของดูไบ (Dubai Old Town) ที่นี่มีแหวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และนอกจากทองแล้วก็มีของฝากขายด้วยค่ะ 

ติดกับตลาดทอง ก็มีโรงเรียนที่แรกของเมืองดูไบตั้งอยู่ค่ะ 

ถนน 12 lanes ที่อลังการมาก เป็นประเทศที่จะเดิน ต้องขาแข็งแรงมากๆนะคะ เพราะเมื่อถนนมันใหญ่มาก กว่าจะเดินไปขึ้น Metro ก็ไกลมาก ก่อนไปเมืองนี้ ซ้อมเดินกันเยอะๆ นะคะ 🙂

หากน้องๆ คนไหนสนใจเรียนต่อที่ดูไบ สามารถทักเข้ามาปรึกษาพี่ๆ IEC Abroad ก่อนได้เลยนะคะ

บทความอื่นๆ

ปรึกษา IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

.
Blog Footer

.
Scroll to Top