ติดต่อเรา:

ติดต่อเรา:

ระบบการศึกษาในอเมริกา

ข้อมูลทั่วไป

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ที่ประกอบขึ้นจาก 54 รัฐ (รวมถึงอลาสกาเเละฮาวาย) ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยเกือบ 5,000 เเห่งเเละวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการทางการศึกษา

เมืองใหญ่ คือ นิวยอร์ค ชิคาโก ดัลลัส ซานดิเอโก ลอสเเองเจลิส ฟิลาเดเฟีย ซานโฮเซ่ ซานฟรานซิสโก อินเดียนาโพลิส เเละโคลัมบัส

ภาษาอังกฤษ

ดอลลาร์สหรัฐ ($)

สหรัฐอเมริกามีระบบการปกครองโดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้ทำ หน้าที่ดูแลบริหารรัฐบาล

325.7 ล้านคน

มีสถานศึกษากว่า 4,726 เเห่ง

ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกา

ในทุกๆปีนักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเรียนต่อมัธยม หรือระดับอุมศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกาเชื่อได้ว่า มีประสิทธิภาพสูงในอันดับต้นๆของโลก ในระดับมหาวิทยาลัยมีสาขาวิชาให้เลือกเรียนมากมาย เเละสถาบันการศึกษาที่น่าสนใจหลายเเห่ง โดยไม่จำกัดว่านักศึกษาที่ไปเรียนจะต้องเป็นชาวอเมริกันเท่านั้น นักศึกษาสามารถ
เลือกที่จะเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนได้เพื่อให้ตรงกับสายงาน หรือสายอาชีพในอนาคตได้ ส่วนสาขาที่มีชื่อเสียงในอเมริกานั้นได้เเก่ สาขาการเเพทย์ สาขาเทคโนโลยี สาขาด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆ เป็นต้น

ภาคการศึกษาในสหรัฐอเมริกาเเบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

Semester เป็นระบบที่มีมากที่สุด เเบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 3 ภาคการศึกษา

  1. Fall Semester: ปลายเดือนสิงหาคม – กลางเดือนธันวาคม
  2. Spring Semester: ต้นเดือนมกราคม – เดือนเมษายน
  3. Summer Session: กลางเดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม

Trimester ในหนึ่งปีเเบ่งเป็น 3 ภาคเรียน เเต่ละภาคเรียนยาวประมาณ 3 เดือน

– เเบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 3 ภาคการศึกษา

  1. First Trimester: เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม
  2. Second Trimester: เดือนมกราคม – เดือนเมษายน
  3. Third Trimester: เดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม

Quarter ในหนึ่งปีเเบ่งเป็น 4 ภาคเรียน เเต่ละภาคเรียนยาวประมาณ 10 สัปดาห์

  1. Fall Quarter: เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม
  2. Winter Quarter: เดือนมกราคม – กลางเดือนมีนาคม
  3. Spring Quarter: ต้นเดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน
  4. Summer Qaurter: กลางเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม

ระดับการศึกษาในสหรัฐอเมริกาเเบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

  1. ระดับมัธยมศึกษา
  2. ระดับอุดมศึกษา
ระดับมัธยมศึกษา (HIGH SCHOOL)

ระดับมัธยมศึกษาเเบ่งออกเป็น 2 ระดับ

  1. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น: Grade 7 (เทียบเท่ากับไทยคือ ม.1) – Grade 8 (เทียบเท่ากับไทยคือ ม.2)
  2. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย: Grade 9 (เทียบเท่ากับไทยคือ ม.3) – Grade 12 (เทียบเท่ากับไทยคือ ม.6)

สำหรับนักเรียนต่างชาติที่เข้าไปเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมที่สหรัฐอเมริกานั้นส่วนใหญ่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชน (Boarding School) ส่วนนักเรียนไทยที่มาเรียนสหรัฐอเมริกาจะสำ เร็จชั้นม.3 เเล้วจึงเข้าเรียนต่อในชั้น
Grade 10 หรือ ม. 5 ที่สหรัฐอเมริกา

สำหรับวิชาพื้นฐานที่นักเรียนศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ได้เเก่ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา เเละวิชาพละศึกษาในบางสถาบัน นอกจากนี้ยังมวิชาเลือกให้นักเรียนได้เลือกตามความสนใจอีกด้วย อย่างเช่น วิชาการเเสดง คอมพิวเตอร์เเละเทคโนโลยี ธุรกิจการศึกษา วิชาศิลปะ เเละวิชาอื่นๆมากมาย

ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)

การศึกษาระดับอุดมศึกษาเเบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

  1. วิทยาลัยระบบ 2 ปี เเละวิทยาลัยชุมชน (Two-Year College and Community College)
  2. วิทยาลัย (College)
  3. มหาวิทยาลัย (University)
  4. สถาบันทางวิชาชีพ (Professional School)
1. วิทยาลัยระบบ 2 ปี เเละวิทยาลัยชุมชน (TWO-YEAR COLLEGE AND COMMUNITY COLLEGE)

สำหรับระดับนี้นักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้ 2 หลักสูตร คือ

  •  Tranferable Programme
    หลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรพื้นฐาน 2 ปีเเรกของระดับปริญญาตรี จากนั้นนักศึกษาสามารถโอนหน่อยกิตไป
    ยังมหาวิทยาลัยรัฐ หรือเอกชนเพื่อศึกษาต่อในระดับปี 3 ได้
  •  Terminal/Vocation Track
    เมื่อนักศึกษาเข้าเรียนเป็นเวลา 2 ปี เเละสำ เร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับวุฒิอนุปริญญา (Associate’s
    Degree) ในสาขาที่เลือกเรียน
2. วิทยาลัย (COLLEGE)

หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปี ซึ่งวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาเเบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  • วิทยาลัยรัฐ (State College)
  • วิทยาลัยเอกชน (Private College)
3. มหาวิทยาลัย (UNIVERSITY)

หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปีเช่นกัน เหมือนกับหลักสูตรของวิทยาลัย โดยเเบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับ คือ

  1. ปริญญาตรี ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปี
  2. ปริญญาโท ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 1-2 ปี
  3. ปริญญาเอก ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4-5 ปี

เเละมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาเเบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. มหาวิทยาลัยรัฐ (State University)
  2. มหาวิทยาลัยเอกชน (Private University)
4. สถาบันทางวิชาชีพ (PROFESSIONAL SCHOOL)

หลักสูตรนี้อาจมีระยะเวลาตั้งเเต่ 3-8 ปี โดยระยะเวลาเรียนจะขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่เรียน สถาบันวิชาชีพให้การฝึกอบรมเฉพาะด้านให้กับนักศึกษาต่างๆ อย่างเช่น แพทย์ศาสตร์ กฏหมาย เป็นต้น นักศึกษาจะสามารถเข้าเรียนต่อในสถาบันวิชาชีพได้ก็ต่อเมื่อศึกษาจบปริญญาตรีมาเเล้ว

เอกสารโดยทั่วไปที่ใช้ในการสมัครเรียนระดับปริญญา
  1. ใบสมัครที่ download จาก website ของมหาวิทยาลัย
  2. ค่าธรรมเนียมการสมัครตามเเต่ละสถานศึกษาจะเรียกเก็บ
  3. หลักฐานการศึกษา
  4. จดหมายรับรองทางการเงินของผู้ปกครองจากสถาบันการเงิน
  5. ผลสอบ TOEFL/IELTS
  6. ผลสอบ SAT
  7. ผลสอบ GRE หรือ GMAT (ปริญญาโท)
  8. จดหมายเเนะนำ อย่างน้อย 3 ฉบับจากอาจารย์หรือผู้บังคับบัญชา (ปริญญาโท)
  9. เรียงความประวัติส่วนตัวเเละเหตุผลการไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยจำนวน 300-500 คำ (ปริญญาโท)

บทความอื่นๆ

Scroll to Top