ติดต่อเรา:

ติดต่อเรา:

แนะนำ! ทริคการเขียน SOP

สำหรับวันนี้ พี่ๆ IEC Abroad ขอมาพูดถึงเรื่องของ SOP ซึ่งถือว่าสำคัญอย่างมากในการที่มหาวิทยาลัยจะเลือกรับเราเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาของสหราชอาณาจักร โดยพี่ๆ จะมาแนะนำดีเทล และทริคต่างๆ ที่จะทำให้ SOP เรียนต่อ ของน้องๆ ดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

SOP คืออะไร ? 

SOP หรือ Statement of Purpose ถือการเขียนเรียงความเพื่ออธิบายตัวตนของน้องๆเอง โดยที่เกือบทุกมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร จะต้องการ SOP ในการสมัครเข้าศึกษาต่อ ซึ่งเนื้อหาโดยรวใควรจะพูดถึงตัวตนของน้องๆ, ความสนใจ, ประสบการณ์ ความสำเร็จ รวมไปถึงเหตุผลที่น้องๆสนใจเลือกศึกษาต่อในหลักสูตร และ มหาวิทยาลัยนั้นๆ

ทำไม SOP ถึงได้สำคัญ?

เนื่องจากมหาวิทยาลัยจะต้องพิจารณาเลือกรับน้องๆเข้าศึกษาต่อ ด้วยเหตุผลหลายๆปัจจัย เช่น ทางด้าน เกรด หรือ การทำข้อสอบต่างๆ ในระหว่างที่ SOP ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นการอธิบายถึงตัวตนข้างในจริงๆของน้องๆ และยังเป็นโอกาสยอดเยี่ยมในการแสดงศักยภาพทางด้านความคิด ความอ่าน นอกเหนือจากบทเรียน เพื่อที่จะแสดงความแตกต่าง และเป็นตัวเองให้เหมาะกับหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่น้องๆ ได้เลือกสมัครที่สุด

SOP ที่ดี ควรจะเขียนยังไง?

ต้องบอกก่อนเลยว่าการเขียน SOP ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว หรือ format ที่น้องๆจะต้องเขียนตามอย่างชัดเจน แต่ก็มีหลายจุดสำคัญในการเขียน ที่ไม่ควรพลาดการใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปค่ะ โดยพี่ๆ ได้คัดเลือกมาให้แล้ว ว่า SOP ที่ดี ควรจะต้องครอบคลุมอะไรบ้าง

Introduction

SOP ของคุณจะน่าสนใจมากขึ้น เมื่อขึ้นต้นด้วยประโยคสุดปังที่ดึงดูดผู้อ่านให้อยากติดตามหรืออ่านต่อไป ในส่วนของ Introduction มักจะเขียนเกี่ยวกับประเด็น :
• คุณเป็นใครและอะไรทำให้คุณเลือกหลักสูตรนี้?
• คุณตั้งใจจะทำอะไรในอนาคตหากได้รับเข้าเรียน?

DO!
• หากคุณต้องการยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผลักดันให้คุณอยากเรียนต่อในสายนี้ ให้กล่าวถึงเหตุการณ์นั้นสั้นๆก็พอ อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึง คือ ความชัดเจนและตรงประเด็น มันง่ายมากที่จะพูดถึงความชอบของคุณเป็นสิบๆหน้า แต่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้ามันไม่ตรงตามประเด็นที่คุณกำลังจะเขียน

Don’t!
• เขียนข้อมูลทั่วๆไป เช่น ฉันชื่อ X และฉันกำลังสมัครคอร์ส X ฉันสนใจงานด้านนี้มากและหากได้รับโอกาสฉันจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
*ทำไมถึงไม่ควรทำ – เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ให้อะไรกับผู้อ่าน ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่นๆเลย

• เขียนประโยคเท่ๆหรือประโยคที่เกินจริง เช่น ฉันต้องการเรียนหลักสูตรนี้เพราะฉันต้องการเปลี่ยนแปลงโลก
*ทำไมถึงไม่ควรทำ – เป็นไปได้ว่าในอนาคตคุณอาจจะทำงานที่ยอดเยี่ยมหลังจากเรียนจบและทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นจริง แต่มันมีวิธีที่ดีกว่านั้นในการนำเสนอเป้าหมายของคุณ

Educational Background and Experiences

ส่วนนี้คือส่วนสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึง มหาวิทยาลัยจะให้ความสนใจกับผลการเรียนและประสบการณ์การทำงานของคุณเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุดหากคุณนำเสนอจุดเด่นด้านอาชีพของคุณออกมา ในส่วน Educational background and experiences จะเน้นไปที่ประเด็น :
• การศึกษาระดับปริญญาตรี หรือ สูงกว่าปริญญาตรี รวมถึงการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
• ประสบการณ์การทำงานล่าสุด

DO!

• พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงหรือความท้าทายที่คุณผ่านมาด้วยตัวเองในที่ทำงานหรือห้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่คุณกำลังพูดถึง

• พูดถึงโปรเจค งานวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือ หน้าที่ที่คุณรับผิดชอบในที่ทำงาน

• อธิบายสั้น ๆ ว่าการศึกษาหรือประสบการณ์ของคุณที่ผ่านมาจะมีส่วนช่วยในหลักสูตรที่คุณสมัครได้อย่างไร

Don’t!

• เขียนแค่ข้อมูลข้อเท็จจริงของคุณลงไปเฉยๆ เช่น ฉันได้สมัครหลักสูตร… ด้วยเกรด… แล้ว
*ทำไมถึงไม่ควรทำ – SOP ของคุณเป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครและมีเกรดของคุณอยู่แล้ว ถ้าต้องการพูดถึงเกรด อาจจะพูดในประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องและโดดเด่น

• พูดถึงความสามารถของคุณในด้านลบ เช่น ฉันคิดว่างานวิจัยของฉันยากมากและฉันก็เลยลาออก
*ทำไมถึงไม่ควรทำ – มันจะดีกว่ามาก ถ้าคุณใช้คำพูดเชิงบวกกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ลองนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจ คุณสามารถยกตัวอย่างว่าเหตุการณ์นั้นมีความท้าทายอย่างไรและคุณเรียนรู้อะไรจากสิ่งนั้นบ้าง

Academic Interests and Ambitions

ใน SOP คุณจะต้องพิสูจน์ให้ผู้อ่านเห็นความสนใจ ความทะเยอทะยานและเหตุผลในการตัดสินใจเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและหลักสูตรให้ได้ ในส่วน Academic interests and ambitions สามารถพูดถึง :
• ทำไมมหาวิทยาลัยถึงควรเลือกคุณ.
• เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
• สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับจากหลักสูตรนี้
•คุณคิดว่าประสบการณ์ที่คุณจะได้รับจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายระยะยาวได้อย่างไร
• สิ่งที่คุณวางแผนจะทำทันทีหลังจากจบหลักสูตรนี้

DO!

• พูดถึงเป้าหมายจริงๆของคุณ และ ให้อธิบายอย่างมีเหตุผลว่าคุณจะสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างไร

Don’t!

• ใช้คำศัพท์และศัพท์เฉพาะที่ซับซ้อน คนที่อ่านเรียงความของคุณไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถอ่านและเข้าใจเนื้อหาของคุณได้อย่างง่าย

• เก็บด้านแย่ๆเอาไว้ก่อน พูดถึงด้านบวกของสิ่งต่างๆเท่านั้น เน้นไปที่ จุดอ่อน ความท้าทาย และแผนของคุณที่จะเอาชนะเป้าหมาย

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเขียน statement of purpose (SOP)

• ศึกษาค้นคว้าก่อนเขียน
ค้นคว้าข้อมูลหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่คุณต้องการเรียนต่อ วิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเขียนแบบผิวเผินและที่สำคัญจะทำให้คุณดูมีความรู้มากขึ้น เช่น คุณสามารถให้ข้อมูลการวิจัยที่พวกเขาเผยแพร่ล่าสุดได้ และใช้มันเชื่อมเข้ากับประเด็นที่คุณกำลังจะเขียน แทนที่จะบอกอย่างผิวเผินแค่ว่าคุณสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการวิจัยของมหาวิทยาลัย เห็นความต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยใช่ไหมคะ?

• ยกตัวอย่างจากประสบการณ์โดยตรงของคุณ
เขียนให้เห็นถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาที่คุณได้แก้ไขปัญหา หรือ ทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุเป้าหมาย แทนที่จะอ้างอย่างไร้เหตุผลว่า “ฉันผ่านการทำงานหนักมามาก” “ฉันเป็นผู้ที่แก้ปัญหาได้มากมาย” ฯลฯ

• พยายามเขียนให้ลื่นไหลตั้งแต่ต้นจนจบ
เปรียบ SOP เหมือนเรื่องสั้น คุณเริ่มต้นด้วยการเกริ่นสั้น ๆ ตามด้วยประสบการณ์และความสำเร็จที่ผ่านมา จากนั้นคุณจะอธิบายต่อไปเป็นลำดับว่าทำไมคุณถึงสมควรได้เข้าเรียนและจะทำอะไรต่อไปในอนาคต

• ซื่อสัตย์กับตัวเอง อย่าโกหกหรือพูดเกินความเป็นจริง
มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญในการระบุข้อมูลเท็จ ดังนั้นการโกหกไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายให้กับคุณ แต่ยังทำให้คุณติดบัญชีดำของมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นพูดความจริงเกี่ยวกับความสำเร็จของคุณและอธิบายว่า คุณอยากพัฒนาและปรับปรุงจุดที่คุณยืนอยู่ในวันนี้อย่างไรบ้างจะดีที่สุด

• ขอช่วยใครสักคนพิสูจน์อักษร และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเขียนของคุณ
ข้อนี้สำคัญมาก อย่าส่ง SOP ของคุณ ถ้ายังไม่ได้รับการตรวจทาน บุคคลที่สามสามารถช่วยคุณได้ เพราะพวกเขาอาจสังเกตเห็นข้อผิดพลาดในการเขียน เช่น การใช้คำผิด ผิดไวยากรณ์ ฯลฯ คำแนะนำของพวกเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยให้คุณปรับปรุงแก้ไข SOP ก่อนส่งไปยังมหาวิทยาลัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SOP

ความยาวมาตรฐานของ วิธีการเขียน SOP คืออะไร?
• มหาวิทยาลัยบางแห่งกำหนดความยาวของการเขียน SOP ไว้ด้วย คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก่อนเริ่มเขียน โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 หน้าหรือไม่เกิน 800-1000 คำ

โทนเสียงและรูปแบบที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถติดตามได้ขณะเขียน SOP คืออะไร?
• พยายามเขียนให้กระชับและใช้โทนเสียงที่น่าอ่าน แทนการพูดเรียบๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ใช้น้ำเสียงในการสนทนา แต่ยังคงไว้ถึงการให้เกียรติและเป็นทางการ

• จัดข้อความของคุณเป็นย่อหน้าและเว้นวรรคเท่า ๆ กัน ใช้ขนาดตัวอักษรที่มองเห็นได้ง่าย (12) และแบบอักษรมาตรฐาน (Times new roman) การจัดรูปแบบข้อความของคุณอย่างเรียบร้อยจะทำให้ง่ายต่อการอ่าน

สามารถแก้ไขหรือปรับปรุง SOP หลังจากส่งได้หรือไม่?
•มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้คุณอัปเดตหรือแก้ไข SOP ของคุณหลังจากส่งใบสมัครแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งก่อนส่ง

สามารถใช้ SOP เดียวกันกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้หรือไม่?
• คุณสามารถใช้ SOP เดียวกันเป็นต้นแบบได้ แต่อย่าลืมแก้ไขและปรับแต่งข้อมูลตามความเหมาะสมของแต่ละหลักสูตรในมหาวิทยาลัยนั้นๆ

https://edvoy.com/knowledge-base/how-to-write-your-sop/

บทความอื่นๆ

Scroll to Top