How to เตรียมโปรไฟล์ให้พร้อมก่อนไป "เรียนภาษาที่ต่างประเทศ" - IEC Abroad ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรึกษาฟรีก่อนตัดสินใจ
Driven by

ติดต่อเรา :

How to เตรียมโปรไฟล์ให้พร้อมก่อนไป “เรียนภาษาที่ต่างประเทศ”

หากถามว่าการตัดสินใจไป เรียนภาษาที่ต่างประเทศ ควรไปเมื่อไรดี ? คำตอบแรกคือ ควรไปเมื่อพร้อม ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย ระดับภาษาพื้นฐาน อายุ ระยะเวลา ความเข้าใจในสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรม และความสมบูรณ์แข็งแรงของสุขภาพ 

คุณสมบัติที่แนะนำสำหรับผู้ที่อยากไป “เรียนภาษาที่ต่างประเทศ

1. ช่วงอายุที่เหมาะสม

  • ช่วงอายุ 18-28 ปี เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ
  • กรณีอายุเกิน 30 ปี ยังสามารถสมัครเรียนได้ แต่ควรมีให้เหตุผลที่แน่วแน่มากๆ ว่าอยากไปเรียน เพราะอะไร
  • น้องๆ ที่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรี หากมีช่วงเว้นระยะเวลาเรียน ต้องชี้แจ้งได้ว่า ลาเรียนไปทำอะไรมาบ้าง
  • น้องๆ ที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี และต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษก่อนเริ่มทำงาน ควรมีเป้าหมายของการเรียนภาษาที่ชัดเจน มากกว่าอยากไปเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตที่ต่างประเทศ เช่น การมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษจะทำให้ได้งานที่ดีขึ้น หรือ เติบโตในสายงานได้มากขึ้น

2. ประวัติการทำงาน (กรณีทำงานแล้ว)

  • หากทำงานแล้ว ไม่ควรมีช่วงว่างงานเกิน 1 ปี
  • กรณีทำงานประจำ ควรมีประกันสังคม และเอกสารการเสียภาษี
  • กรณีทำงานอิสระ ควรเสียภาษีอย่างถูกต้อง หรือมีรายได้ที่หักภาษีชัดเจน
  • หากเคยทำงานมาหลายที่ ควรมีหนังสือรับรองการทำงานของทุกที่ และมี Resume หรือ CV แสดงประวัติการทำงานที่ผ่านมาอย่างครบถ้วน

3. แรงจูงใจในการ เรียนภาษาที่ต่างประเทศ

  • การไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ ผู้เรียนควรแสดงให้เห็นถึงเหตุผลและความตั้งใจในการไปเรียนจริงๆ รวมไปถึงชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของคอร์สเรียน
  • ทำงานในองค์กรที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยากพัฒนาตนเอง เพื่อความก้าวหน้าในสายงาน
  • เคยลงเรียนภาษาที่ประเทศไทย และ ได้ลองทดสอบภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้คะแนนตามที่ต้องการ 
  • หากเคยไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศมาแล้ว ควรมีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ เพื่อแสดงถึงพัฒนาการทางภาษา และความจำเป็นในการเรียนเพิ่ม

4. ความพร้อมทางการเงิน

  • มีความพร้อมในเรื่องค่าใช้จ่าย และมีผู้สนับสนุนด้านการเงิน (Financial Sponsor) ไมว่าจะเป็นค่าเรียน ค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตลอดระยะเวลาเรียน (อิงตามกฎการยื่นวีซ่านักเรียนของประเทศนั้นๆ)
  • ผู้เรียนควรมีเงินออมของตนเองด้วยส่วนหนึ่ง เพราะการมีระเบียบวินัยในการออม แสดงถึงการมี Profile ที่ดี

5. คุณสมบัติอื่นๆ

  • ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรควัณโรค
  • เป็นผู้ที่ไม่มีคดีความทั้งแพ่ง และ อาญา
  • กรณีเคยยื่นวีซ่าและผลวีซ่าไม่ผ่าน จะต้องแจ้งข้อมูลส่วนนี้ด้วย 
Visiting a doctor concept A doctor sitting using the tool to measure blood pressure on the patient’s arm carefully

ระยะเวลาลงเรียนภาษาอังกฤษ ในประเทศที่สามารถทำงาน Part-time ได้ระหว่างเรียน (Work and Study)

การพัฒนาภาษาอังกฤษ จะทำได้มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ทั้งตัวผู้เรียน สภาพแวดล้อม และวินัยในการฝึกฝน ซึ่งโดยเฉลี่ยการพัฒนาระดับภาษาของผู้เรียนขึ้นไปหนึ่งระดับ จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ส่วนการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน

โดยส่วนใหญ่ น้องๆ จะเลือกลงเรียนภาษาเบื้องต้นที่ 24 สัปดาห์ (6 เดือน) เพราะเป็นระยะเวลาที่ดูเหมาะสม ไม่สั้นหรือยาวเกินไป มีเวลาให้ปรับตัว และทดลองว่าชอบสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆ หรือไม่ อีกทั้งยังเป็นระยะเวลาที่นานพอในการพัฒนาระดับภาษาขึ้นได้ 2-3 ระดับ 

สำหรับการลงเรียน 36-48 สัปดาห์ (9-12 เดือน) กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนที่แพงขึ้น ทำให้ผู้เรียนต้องการเพิ่มความคุ้มค่า โดยการเลือกลงเรียนระยะยาว

ทั้งนี้ การลงเรียนที่นานยิ่งขึ้น จะทำให้เป็นผลดีต่อการพัฒนาระดับภาษา เพราะผู้เรียนจะมีเวลาฝึกฝน และได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษจริงได้นานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

ข้อดีของการลงเรียนระยะยาวมากกว่า 6 เดือน

  • ระยะเวลาวีซ่ายาว (ลงเรียน 9 เดือน ได้วีซ่า 11 เดือน / ลงเรียน 12 เดือน ได้วีซ่า 14 เดือน)
  • ได้มีโอกาสทั้งเรียน เที่ยว ใช้ชีวิต เก็บประสบการณ์ต่างประเทศอย่างเต็มเปี่ยม
  • ได้เปรียบในการหางาน Part-time เพราะนายจ้างมักเลือกจ้างนักเรียนที่วีซ่ายาว เนื่องจากจะทำงานด้วยกันได้นานกว่า
  • หากมีแพลนเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ผู้เรียนก็จะมีเวลาเตรียมคะแนนภาษาเพื่อสมัครเรียนต่อได้มากขึ้น

ต้องมีความรู้ภาษาเบื้องต้นก่อนไปเรียนไหม ?

การไปเรียนและใช้ชีวิตที่ประเทศ แน่นอนว่าต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ดังนั้นหากน้องๆ ได้ภาษาอังกฤษในระดับเบื้องต้น ก็จะทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยน้องๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งภาษามาก เพราะเราไปเรียนเพื่อพัฒนาภาษา

แต่การมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับเอาตัวรอด และไหวพริบที่ดี จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างประเทศได้ไวขึ้น และมีโอกาสหางาน Part-time ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะนายจ้างที่ไม่ใช่คนไทย มักมองหาพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง เพื่อความสะดวกในการเทรนงานและสื่อสารกันในที่ทำงาน

ทั้งนี้ งาน Part-time ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมากนักก็ยังมีอยู่ไม่น้อยค่ะ เช่น Kitchen Hand ในร้านอาหารไทย, งาน Cleaner ทำความสะอาด, งาน Housekeeping แต่ถึงอย่างไร หากสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้บ้าง มั่นใจว่าก็จะทำให้ได้เปรียบกว่าอย่างแน่นอน

บทความอื่นๆ

ปรึกษา IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

.
Blog Footer

.
Scroll to Top