การเรียนที่นิวซีแลนด์ไม่ใช่แค่เรื่องของวิชาการเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลนักเรียนต่างชาติในทุกมิติของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ ความรู้สึกปลอดภัย และการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ ๆ ได้อย่างราบรื่น และหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นมากของโรงเรียนในนิวซีแลนด์ก็คือ Kiwi Buddy Programme ซึ่งวันนี้พี่ๆ IEC Aborad จะพามาทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้กันค่ะ

โรงเรียนทุกแห่งใน Northland ที่รับนักเรียนต่างชาติจะต้องลงนามใน “New Zealand Code of Practice for the Pastoral Care of International Students” ซึ่งเป็นหลักจรรยาบรรณในการดูแลนักเรียนต่างชาติอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านสังคม อารมณ์ และการเรียนรู้ ซึ่งหมายความว่านักเรียนไทยทุกคนที่ไปเรียนที่นี่จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งในโรงเรียนและที่พักนั่นเองค่ะ

Kiwi Buddy Programme คืออะไร?

Kiwi Buddy Programme เป็นโครงการพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อช่วยให้นักเรียนต่างชาติสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตนักเรียนในนิวซีแลนด์ได้เร็วและง่ายขึ้น โดยทางโรงเรียนจะคัดเลือกนักเรียนชาวนิวซีแลนด์มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่หูให้กับนักเรียนต่างชาติ การที่นักเรียนคนหนึ่งจะได้เป็น Kiwi Buddy นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมาก และถือเป็นเกียรติที่นักเรียนในโรงเรียนต่างแข่งขันกันเพื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมนี้

ก่อนที่นักเรียนไทยจะเดินทางไปถึงนิวซีแลนด์ Kiwi Buddy จะติดต่อทักทายผ่านทางอีเมลหรือเฟซบุ๊ก เพื่อเริ่มต้นสร้างความคุ้นเคย จากนั้นในวันที่นักเรียนมาถึงสนามบิน พวกเขาจะเดินทางมารอต้อนรับพร้อมกับครอบครัวโฮมสเตย์และเจ้าหน้าที่โรงเรียน

เมื่อเข้าโรงเรียนแล้ว Kiwi Buddy จะพานักเรียนใหม่ไปแนะนำตัวกับเพื่อน ๆ แนะนำคุณครู พาชมสถานที่ต่าง ๆ ในโรงเรียน แลกเบอร์โทรศัพท์ไว้ติดต่อกัน และคอยตอบคำถามที่บางครั้งนักเรียนอาจไม่กล้าถามผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำในที่ประชุมเช้า และชวนไปร่วมกิจกรรมทางสังคมหรือสันทนาการในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับ Kiwi Buddy มักกลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้ตลอดชีวิต โปรแกรมนี้ไม่เพียงช่วยให้นักเรียนไทยได้เรียนรู้วัฒนธรรมของนิวซีแลนด์อย่างลึกซึ้ง แต่ยังช่วยลดความเหงา ความเครียด และสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนในช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวในต่างประเทศ

ชีวิตในโรงเรียนมัธยมของนิวซีแลนด์

ชีวิตในโรงเรียนมัธยมของนิวซีแลนด์นั้นมีความแตกต่างจากประเทศไทยอยู่หลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นมากคือบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นกันเอง และเน้นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม นักเรียนจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่สมดุล ทั้งการเรียน การทำกิจกรรม และการใช้ชีวิตประจำวัน

นักเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์เริ่มเรียนกันตั้งแต่เช้าประมาณ 9 โมง และเลิกเรียนประมาณบ่าย 3 โมง โดยมีการแบ่งชั้นเรียนเป็นรายวิชา (คล้ายกับมหาวิทยาลัย) นักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาที่ตัวเองสนใจได้ตั้งแต่ระดับ Year 11 (เทียบเท่าม.4) เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นวิชาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ ดนตรี การถ่ายภาพ การออกแบบ หรือแม้แต่การทำอาหาร

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือการเรียนในห้องเรียนของที่นี่จะเน้นให้คิด วิเคราะห์ แสดงความเห็น และทำงานเป็นทีม ครูไม่ได้เป็นผู้พูดฝ่ายเดียว แต่มักจะเปิดโอกาสให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำกิจกรรมกลุ่ม หรือทดลองจริง เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้งมากกว่าแค่การท่องจำ

ด้านกิจกรรม นักเรียนจะได้เข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี ศิลปะ การแสดงละคร วิทยาศาสตร์ งานชุมนุม หรือชมรมเฉพาะด้าน เช่น โรโบติกส์ การทำฟาร์ม หรือกิจกรรมอาสาสมัคร ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะรอบด้าน

นอกจากนี้ โรงเรียนจะให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น เช่น การใช้เวลาอยู่กับโฮมสเตย์ การเข้าใจกฎระเบียบ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และการใช้ชีวิตอย่างมีวินัย การดูแลนักเรียนต่างชาติก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ดีมาก โดยมีเจ้าหน้าที่และครูดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ปรับตัว เช่น Kiwi Buddy Programme ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้

สิ่งเหล่านี้ทำให้น้องๆ หลายคนคนที่มาเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์สามารถพัฒนาภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว มีความมั่นใจ และพร้อมก้าวเข้าสู่การเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอนาคตได้อย่างแข็งแรง

เปรียบเทียบชีวิตนักเรียนมัธยมระหว่าง Northland และ Auckland ให้เห็นภาพชัดๆ กันดีกว่า

Northland
เป็นภูมิภาคทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ มีเมืองหลักคือ Whangārei
บรรยากาศใน Northland เงียบสงบ ธรรมชาติสวยงาม ใกล้ทะเล มีทั้งป่า ภูเขา และหาดทราย นักเรียนจะได้ใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง

ข้อดีของการเรียนที่ Northland

• นักเรียนน้อยในแต่ละโรงเรียน ทำให้ครูดูแลทั่วถึง
• บรรยากาศอบอุ่นและปลอดภัย เหมาะสำหรับนักเรียนที่ไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อน
• ค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำกว่า Auckland ทั้งค่าที่พักและค่าครองชีพ
• ได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น เพราะมีนักเรียนไทยน้อย
• มีโอกาสใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น ไปตั้งแคมป์ ปีนเขา เล่นเซิร์ฟ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง

เหมาะสำหรับ

• นักเรียนที่ต้องการสภาพแวดล้อมเงียบๆ มีสมาธิเรียน
• ผู้ปกครองที่มองหาพื้นที่ปลอดภัยและไม่วุ่นวาย
• คนที่อยากฝึกภาษาจริงจังและใช้ชีวิตแบบ local แท้ๆ

Auckland
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ การคมนาคม และวัฒนธรรม
มีโรงเรียนมัธยมหลากหลาย ทั้งรัฐและเอกชน รวมถึงมีโรงเรียนนานาชาติให้เลือกมากมาย

ข้อดีของการเรียนที่ Auckland

• เมืองทันสมัย สะดวกสบาย มีทุกอย่างครบ ทั้งร้านอาหารไทย ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย และสถานที่ท่องเที่ยว
• โรงเรียนหลายแห่งมีหลักสูตรนานาชาติ เช่น IB หรือ Cambridge
• มีชุมชนไทยและเอเชียเยอะ ทำให้ปรับตัวได้ง่าย
• นักเรียนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมหลากหลาย ทั้งในและนอกโรงเรียน
• ระบบขนส่งสาธารณะดี เดินทางสะดวก

เหมาะสำหรับ

• นักเรียนที่ชอบความคึกคัก อยากใช้ชีวิตในเมือง
• คนที่วางแผนเรียนต่อมหาวิทยาลัยใน Auckland
• ผู้ที่ต้องการความหลากหลายทางวัฒนธรรม

สรุปง่ายๆ

• ถ้าอยากใช้ชีวิตสบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ Northland คือคำตอบ
• ถ้าอยากได้สิ่งอำนวยความสะดวกครบแบบเมืองใหญ่ Auckland ก็เหมาะมาก

สำหรับน้องๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์การเรียนที่ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่ได้สัมผัสชีวิตจริงอย่างใกล้ชิดในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นมิตร และมีการดูแลอย่างอบอุ่น โครงการ Kiwi Buddy Programme ใน Northland ของนิวซีแลนด์คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการเรียนและชีวิตอย่างแท้จริง หากมีข้อสงสัยตรงไหน สามารถทักเข้ามาปรึกษาพี่ๆ IEC Abroad ก่อนได้เลยนะคะ