ติดต่อเรา:

ติดต่อเรา:

ไปเรียนภาษา ประเทศไหนดี?

สำหรับวันนี้ พี่ๆ IEC Abroad ขอมาแนะนำประเทศยอดนิยม ที่เหล่าน้องๆ นิยม ไปเรียนภาษา อังกฤษ กันค่ะ โดยจะขอมาพูดถึงจุดเด่นหลักๆ ของ ประเทศ ออสเตรเลีย, อังกฤษ, นิวซีแลนด์ และ แคนาดา นะคะ เผื่อว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจการเลือกไปเรียนต่อให้กับน้องๆที่กำลังสนใจกันค่า

AUSTRALIA

  • เชื้อชาติหลากหลาย
    ชาวเอเชียนิยมไปเรียน ทำงาน และทำธุรกิจกันในหลายเมืองใหญ่ๆ อย่าง Sydney, Melbourne, Perth ในแต่ละเมืองจะมีย่านชุมชนของชาติต่างๆ ที่เรียกว่า China Town, Thai Town, Korean Town นอกจากนี้ยังมีร้านขายของชำที่มีของส่งมาจากบ้านเราแทบทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีชาวยุโรป นิยมย้ายมาเรียนและทำงานที่นี่เพราะมีหน้าร้อน อากาศดีกว่า เศรษฐกิจการจ้างงานก็มีมากกว่าในประเทศ การอยู่ร่วมกันของหลายเชื้อชาตินี้ทำให้เราได้ฝึกฝนการปรับตัวให้เข้ากับสังคมและเป็นการฝึกภาษาได้เป็นอย่างดี
  • ปรับเวลาง่าย
    เวลาที่ออสเตรเลีย เร็วกว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 1-4 ชั่วโมงแตกต่างกันไป เช่น เวลาใกล้ไทยที่สุดคือเร็วกว่า 1 ชม. คือ Perth รองลงมาคือเร็วกกว่า 2 ชม. เช่น Darwin, Adelaide และ 3 ชม. เช่น Sydney, Canberra, Melbourne และ Brisbane เป็นต้น ซึ่งไม่ถือว่าห่างกันมากเกินกว่าที่เราจะปรับตัวได้ในระยะเวลาสั้นๆ (นอนอิ่มๆตามเวลาใหม่ของออสเตรเลียสัก 3-5 วันก็ปรับได้แล้ว) นอกจากนี้ในบางรัฐใหญ่ๆ จะมีการเปลี่ยนเวลาที่เรียกว่า Daylight Saving Time (DST) ให้เวลาเร็วขึ้น 1 ชม. ในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และปรับกลับมาเหมือนเดิมในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี
  • LGBT-friendly หลากหลายทางเพศ
    ประเทศออสเตรเลียให้การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-sex marriage) มาตั้งแต่ปี 2017 ชาว LGBT ได้รับการคุ้มครองและการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพ ด้านสังคม และศาสนา ในทุกๆปีจะมีการจัดงานพาเรดแสดงพลังของชาว LGBTQ+ ที่เมือง Sydney เรียกว่า มาร์ดิ กราส์ (Mardi Gras) ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมของทุกปี
  • สาขาการศึกษาหลากหลาย
    ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียให้การสนับสนุนทั้งแบบมหาวิทยาลัย และแบบวิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่อง ซึ่งจะมีหลักสูตรที่เรียกว่า Vocational Education&Training (VET) ซึ่งเป็นหลักสูตรเน้นพัฒนาทักษะความสามารถ เช่น Chef, Accountant, Nurse ที่นอกจากจะได้เรียนปฏิบัติและฝึกงานอย่างจริงจังแล้ว ยังสามารถนำวุฒิและประสบการณ์ไปต่อยอดในการขอ Skilled VISA ยื่นวีซ่าขอเป็นพลเมืองถาวรของประเทศออสเตรเลียได้อีกด้วย
  • ทำงานระหว่างเรียนได้ถูกกฏหมาย
    วีซ่านักเรียน (Student Visa) จะมี work permission หรือเงื่อนใขอนุญาตให้นักเรียนทำงานที่ออสเตรเลียได้อย่างถูกกฏหมาย โดยในช่วงระหว่างเรียน นักเรียนสามารถทำงานได้ 40 ชั่วโมง/2 อาทิตย์ และทำได้แบบไม่จำกัดในช่วงปิดเทอม รูปแบบของงานที่นิยมทำกัน ส่วนใหญ่เป็นงาน casual ทำ/ได้เงินเป็นรายชั่วโมง หรือเป็นผลัด (Shift) ประมาณ 5-6 ชั่วโมง งานที่นักเรียนไทยทั่วไปนิยมทำกัน มีตั้งแต่งานในร้านคาเฟ่/ร้านอาหาร งานทำความสะอาดต่างๆ ที่นอกจากจะได้รายได้แล้วยังได้ประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตด้วย
  • สวรรค์ของคนชอบเที่ยว Outdoor
    ออสเตรเลียมี 4 ฤดู มีภูมิประเทศแทบทุกลักษณะ มีทั้งฝั่งทะเลและฝั่งมหาสมุทร ที่มีชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงหลายแห่งเหมาะแก่การว่ายน้ำ เล่น surf อาบแดด หรือนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่ Bondi Beach, Byron Bay, Glenelg Beach, Burleigh Heads หรือจะออกเรือไปดูปลาวาฬ โลมา เพนกวิน ตามเกาะต่างๆ หรือจะลงดำน้ำดูปะการังในโลกใต้ทะเลสวยๆ ที่ Great Barrier Reef แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก

UNITED KINGDOM

  • เป็นแหล่งเรียนรู้คุณภาพสูง
    สหราชอาณาจักรดึงดูดนักศึกษาต่างชาติประมาณ 500,000 คนต่อปีทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการศึกษาต่อในต่างประเทศ เนื่องจากการเรียนรู้ที่นี่ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพด้วยสถาบันที่มีชื่อเสียง ทั้งยังมีหลักสูตรที่หลากหลาย ครอบคลุมความสนใจทำให้มีผู้อยากมาเรียนต่อที่นี่จำนวนมาก
  • สภาพแวดล้อมที่หลากหลายและเป็นมิตร
    ที่นี่มีประชากรหลากหลายวัฒนธรรม มีการพูดภาษาต่างๆ มากกว่า 250 ภาษาในลอนดอน จนทำให้กลายเป็นเมืองแห่งส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเก่าแก่และอิทธิพลของผู้อพยพ ทำให้มีความน่าสนใจให้กับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมได้ศึกษา
  • เป็นหนึ่งในเมืองที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับนักศึกษา
    QS ได้จัดการสำรวจรวบรวมข้อมูลจากนักเรียน 50,000 คน เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตนักเรียนและเส้นทางในอนาคตพบว่ามีความพึงพอใจในระดับสูงทั้งยังมีโอกาสในการทำงานหลังจบการศึกษารอนักเรียนต่างชาติอยู่อีกมากมาย แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก แต่ก็มีการสนับสนุนนักเรียนต่างชาติหลายทางตามเงื่อนไขของแต่ละสถาบัน
  • เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีมาอย่างยาวนาน
    แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยศิลปะและภูมิปัญญาที่น่าสนใจมากมาย ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Shakespeare, Blake, Wordsworth และ Charlotte Bronte นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวทางปัญญาที่สำคัญที่สุดของโลกสมัยใหม่ ด้วยเป็นสถานที่ที่ Isaac Newton ค้นพบแรงโน้มถ่วง รวมถึเป็นแหล่งค้นพบความจริงทางวิทยาศาสตร์มากมายจนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการพัฒนาและรวมองค์ความรู้มากที่สุด

CANADA

  • มีคนหลายเชื้อชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมประเทศแคนาดาได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ 6 ของประเทศที่มีเสรีภาพมากที่สุดในโลก โดยเห็นได้ชัดจากความแตกต่างทางเชื้อชาติ ชนกลุ่มน้อย เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและความเชื่อ ประชากรกว่า 92% ลงความเห็นว่าประเทศแคนาดาเป็นสถานที่อยู่อาศัยที่ดีสำหรับผู้คนที่อพยพมาตั้งรกรากที่นี่ และยังมี 94 % ที่เชื่อมั่นในความอิสระและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการเลือกใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
  • ความปลอดภัยสูง
    ประเทศแคนาดาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิตสูงมาก โดยประเทศแคนาดาได้รับคะแนน 9 เต็ม 10 จาก OECD Better Life Index โดยมีประชากรจำนวนมากถึง 82% ที่รู้สึกปลอดภัยจากการอยู่อาศัยรวมถึงการเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวในช่วงเวลากลางคืน โดยเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของ OECD คือ 68% เรียกได้ว่าสูงเกินค่าเฉลี่ยมาเยอะมากเลยค่ะน้องๆ
  • ความเจริญก้าวหน้าทางธุรกิจ
    ประเทศแคนาดาได้รับการจัดอันดับ จาก Bloomberg ให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของประเทศที่น่าลงทุนทางด้านธุรกิจมากที่สุดในโลก โดยนำโด่งเหนือประเทศเจ้าของภาษาอังกฤษอื่น ๆ เช่นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย
  • สนุกกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
    ประเทศแคนาดามีภูมิประเทศที่สวยงาม มีทะเลสาบและอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง ซึ่งล้วนตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสำคัญใหญ่ ๆ ซึ่งน้อง ๆ จะได้เพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนกลางแจ้งอย่างไม่น่าเบื่อหน่าย อีกทั้งน้อง ๆ ยังมีโอกาสชมแสงเหนือ หรือ Aurora ในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในประเทศแคนาดาได้อีกด้วย

NEW ZEALAND

  • เป็นประเทศที่มีความสงบสุขเป็นอันดับ 1 ในบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
    ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศนิวซีแลนด์ไม่เคยลดลงต่ำกว่า อันดับสี่ในดัชนีสันติภาพโลกเลย จึงทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยมากที่สุดอันดับ 1
  • สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้
    การทำงานพาร์ทไทม์สำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติในประเทศนิวซีแลนด์ สถานทูตกำหนดไว้ว่า สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงวันหยุด แต่มีข้อกำหนดบางข้อที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และต้องตรวจสอบเงื่อนไขของวีซ่าของตัวเองด้วยว่า ได้รับอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้หรือไม่
  • การศึกษามีคุณภาพระดับโลก
    ทุกหลักสูตรจากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด จากหน่วยงาน New Zealand Qualifications Authority (NZQA) ซึ่งเป็นหน่วยงานจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ ที่รับผิดชอบ และควบคุมมาตรฐานการศึกษา นอกจากนี้ ถ้าหากหลักสูตรไหน ไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงาน NZQA นั่นหมายความว่า หลักสูตรนั้นไม่สามารถขอวีซ่านักเรียนได้
  • เป็นประเทศแรกในโลกที่มีหลักปฏิบัติในการดูแลสวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ
    หลักปฏิบัตินี้ได้รับการตรวจสอบโดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ และครอบคลุมทั้งกระบวนการการศึกษา ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หลักปฏิบัตินี้ ให้การสนับสนุนทั้งทางด้านวิชาการ และการให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาต่างชาติ พร้อมส่งเสริมให้บุคลากรคอยทำหน้าที่ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือนักศึกษาอย่างเต็มที่ รวมถึงยังกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อเท็จจริง และค่าธรรมเนียมทั้งหมด

บทความอื่นๆ

Scroll to Top