ติดต่อเรา:

ติดต่อเรา:

Profile สมัครเรียนภาษาออสเตรเลีย ลุ้นวีซ่าได้ ควรเป็นแนวไหนกันนะ?

สำหรับวันนี้พี่ๆ IEC Abroad ขอมาไขข้อสงสัยยอดฮิตของน้องๆที่กำลังสนใจอยากไป Work and Study ที่ประเทศออสเตรเลียกันค่ะ และข้อสงสัยที่ว่านั้นก็คือ วีซ่านักเรียนจะผ่านมั้ย? Profile เราควรจะต้องเป็นประมาณไหน วีซ่าถึงจะผ่านชัวร์ๆ 100% ” Profile สมัครเรียนภาษาออสเตรเลีย ลุ้นวีซ่าได้ ควรเป็นแนวไหนกันนะ?” ที่นี้มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

  • มีเงินโชว์ มีที่มาที่ไปของเงินชัดเจน ตามที่สถานทูตกำหนด

เงินโชว์คือ Statement ทางการเงินค่ะ โดยเป็นเอกสารตั้งแต่ 1 หน้าไปถึงหลายหน้า บอกเงินเข้าออกย้อนไป 6 เดือน เงินคงเหลือบรรทัดสุดท้ายในสมุดเงินฝาก และมีที่มาที่ไป เพื่อบอกถึงศักยภาพว่าระหว่างที่ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ จะมีเงินใช้จ่าย ตลอดจนเรียนจบค่ะ

สำหรับประเทศออสเตรเลีย

  • ใช้บัญชีเงินออมทรัพย์ ฝากประจำ ฝากเผื่อเรียก หรือสลาก
  • ออมสินยื่นได้ / หรือเงินฝากในสหกรณ์ของสวัสดิการต่าง แต่ต้อง
  • ไม่ใช่เป็นทุนเรือนหุ้น มีสภาพคล่อง 100%

*เงินที่เอามาโชว์ไม่ได้คือ เบี้ยประกัน กองทุน หุ้น ทองคำ*

ไปเรียน 24 สัปดาห์ ยอดโชว์ที่ 400,000 บาท

ไปเรียน 48 สัปดาห์ ยอดโชว์ที่ 700,000 บาท

  • Statement ย้อนหลัง 6 เดือน = ย้อนกลับไป 6 เดือนทุกวัน เงินห้ามน้อยกว่าที่แจ้ง
  • ถ้ามีโอนมาเพิ่มตูมๆ ต้องบอกได้ว่ามาจากอะไร และมีหลักฐานของที่มาของเงิน

คนที่สามารถโชว์เงินได้ คือ คนที่ทำงานประจำ มีการงานที่มั่นคง หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ

ควรจะเป็น พ่อ แม่ หรือตัวน้องเอง หรือเป็นญาติ ทางสายเลือด ที่โยงความสัมพันธ์ไปแล้ว ไม่ห่างเกินไป

  • การศึกษา สัมพันธ์กับอายุ

ตัวอย่างเช่น วุฒิ ม.6 อายุ 18 หรือ หากอายุ 23 ปี ขึ้นไปต้องจบ ปริญญาตรี เรียนจบใหม่ และไม่มีเว้นว่างทำงานเกิน 1 ปี

  • เด็กจบใหม่ อยากไปพัฒนาภาษาก่อนเริ่มงาน เพื่อได้เงินดีที่ดี และสร้าง profile
  • คนทำงานที่ทำงานมาแล้วสัก 3-5 ปี และเคยสอบภาษา แล้วก็ท้อใจ ไม่ได้เลย หรือหากได้ภาษา จะได้เงินเดือนเพิ่ม
  • อายุ 30+ มีโอกาสขอได้ แต่ต้องมีหนังสือรับรองการทำงานมาทุกที่ ควรมีผลการสอบภาษาที่บอกได้ว่าต้องการพัฒนาจริงๆ และงานที่ต้องการทำ ต้องการภาษาจริงๆ

*หากอายุเกิน 35 ปี เป็นช่วงอายุที่ต้องมี profile ที่ชัดเจนมากๆ ว่าทำไมจึงอยากไปเรียนภาษา ควรมีผลการสอบภาษามาแล้ว ควรบอกได้อย่างชัดเจนว่า จะไปเรียนทำไม และมีเหตุปัจจัยอื่นๆ ก็มีผลในการพิจารณาด้วยเช่นกัน เช่นมีเงินเก็บพอควร สถานภาพทางสังคม และอื่นๆ*

  • มีการงานที่ชัดเจน และยังมีอาชีพทำงานระหว่างยื่นวีซ่า
  • มีเป้าหมายไปเรียนที่ชัดเจน ว่าทำไมไปเรียน และเรียนจบแล้วคือ จะกลับมาไทย ทำงาน

จากที่สังเกต Profile สมัครเรียนภาษาออสเตรเลีย ที่วีซ่าจะไม่ผ่านคือ

  • ไม่ยื่น Bank Statement ย้อนหลัง บอกที่มาที่ไปของเงินไม่ได้ เงินไม่พอ หรือเงินงงๆ (พวกโฉนดที่ดิน ไม่ต้องยื่น คนพิจารณา ไม่ดูไม่สนใจ) ถ้าเงินใน statement เราถึง และอยากยื่นโฉนดที่ดินเสริมไปด้วย ก็ทำได้ แต่หากเงินไม่มีหมุนเวียนไปบัญชี และจะใช้โฉนดยื่นแทน อันนี้ไม่ได้นะคะ
  • ไม่ยื่น Resume / Timeline ชีวิตก้าวกระโดด อ่านแล้ว เขียนเรียงเล่าชีวิตมาไม่ดี
  • บอกเป้าหมายงานที่อยากจะทำ ต้องใช้ภาษา แต่ว่า profile เราอาจจะมีประสบการณ์ทำงานไม่พอในสิ่งที่เขียนไป (under qualified) เช่น เพิ่งเรียนจบ อยากสมัครงานที่ต้องการประสบการณ์ 3-5 ปี
  • ไม่รับสายสถานทูต เวลาที่เค้าโทรไปสอบถามเพิ่ม
  • เอกสารไม่เรียบร้อย ถ่ายรูปมาไม่ชัด จริงๆ แนะนำสแกนทุกอย่าง
  • จบใหม่ ทำงานที่บ้าน หรือทำงานที่บ้านมานานๆๆ ทำไมต้องใช้ภาษา ต้องบอกให้ได้ชัดเจนมากๆ หากบอกไม่ได้ ก็ไม่ค่อยรอด
  • มีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว ลุ้นๆ ว่ารอดไม่รอด ต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นว่า ทำไมไปเรียน ทั้งที่มีครอบครัวแล้ว
  • ทำงานไม่เสียภาษี รับเงินสด อารมณ์ freelance มานานๆๆแต่ไม่เสียภาษี หรือหัก 3%
  • อยากกลับมาทำธุรกิจส่วนตัว อันนี้ ลืมไปได้เลย ใครเขียนแนวนี้คือ ควรมีแพลนธุรกิจที่ชัดเจน และควรมีเงินโชว์เยอะๆ ถ้าไม่มั่นใจ ให้แจ้งว่ากลับมาทำงาน ที่ต้องใช้ภาษา
  • อยากจะเรียนต่อ ป.โท ที่ออสเตรเลีย โดยค่าเรียนป.โท ที่ออสเตรเลีย เฉลี่ย ปีละ 1 ล้าน หากแจ้งแนวนี้แต่ statement มีไม่ถึงล้าน ก็ไม่แนะนำอีกเช่นกัน น้องๆคนที่อยากจะเรียนต่อ ป.โท ไม่ว่าที่ไหน ควรมีหลักฐานการสมัครเรียนแล้ว และสอบไอเอลแล้ว หากยังไม่มี ประเด็นเรียนต่อป.โท แนะนำให้พักค่ะ

https://www.australia.com/en-us

บทความอื่นๆ

Scroll to Top