Work and Study vs Work and Travel ต่างกันอย่างไร ? - IEC Abroad ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรึกษาฟรีก่อนตัดสินใจ
Driven by

ติดต่อเรา :

Work and Study vs Work and Travel ต่างกันอย่างไร ?

Work and Study และ Work and Travel เปิดโอกาสให้คนไทยได้ไปทำงานที่ต่างประเทศในระยะสั้นๆ ได้เหมือนกัน แต่รู้ไหมทั้งสองโครงการมีรายละเอียดที่ต่างกันหลายอย่างเลย

Work and Travel

คือ โครงการสำหรับนักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ปี 2-3-4 (นิยมไปตอนปี 3) โดยน้องๆ จะได้ไปทำงาน และท่องเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างปิดเทอม เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 3-4 เดือน 

ประเภทวีซ่าที่ได้คือ J-1 ไม่ใช่ วีซ่านักเรียน (F-1)

ราคาเริ่มต้นของโครงการ Work and Travel: ประมาณ 15x,xxx – 2xx,xxx บาท (ค่าโครงการ ค่าธรรมเนียมวีซ่า และ ค่าตั๋วเครื่องบิน)

ทักษะภาษา: ควรต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดี

ข้อดี

  • น้องๆ จะสามารถเลือกเมือง งาน และนายจ้างได้ก่อนที่จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
  • ไม่มีข้อจำกัดเรื่องชั่วโมงการทำงาน
  • สามารถท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกาหลังจากจบโครงการได้
  • มีโอกาสหา Second job เพื่อหารายได้เพิ่ม

ข้อจำกัด

  • สมัครได้เฉพาะนักศึกษาในระดับปริญญา ที่ยังมีสถานะนักศึกษาเท่านั้น
  • บางงานต้องมีผ่านสัมภาษณ์กับนายจ้าง และทุกคนต้องสัมภาษณ์วีซ่า J-1 กับสถานทูตอเมริกา ดังนั้น น้องๆ ควรต้องมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี
  • ไม่สามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ตามใจ หากมีปัญหาระหว่างโครงการ ต้องทำเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนนายจ้างกับทางเอเจ้น

Work and Study

คือ การไปเรียนต่างประเทศด้วยวีซ่านักเรียน ในประเทศที่อนุญาตให้ทำงาน Part-time ได้ระหว่างเรียน โดยผู้เรียนจะต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี และลงเรียนตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจึงจะสามารถทำงานระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฎหมาย

ไปประเทศไหนได้บ้าง ? : Australia, New Zealand, UAE (Dubai), Ireland

คอร์สเรียน

  • เรียนภาษา – ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอร์แลนด์ มอลต้า 
  • เรียนสายอาชีพ – ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา
  • เรียนปริญญา – เกือบทุกๆ ประเทศนักเรียนสามารถทำงานได้ระหว่างเรียน ซึ่งประเทศที่เป็นที่นิยมของนักเรียนไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ อเมริกา แคนาดา

ราคาเริ่มต้นของการไป Work and Study:  ค่าเรียน 6 เดือน เริ่มต้นที่ 150,000 บาท (เบื้องต้น งบก้อนแรกควรเตรียมงบอย่างน้อย 250,000 บาทขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมค่าวีซ่า ค่าประกันสุขภาพ ค่าตั๋วเครื่องบิน และ Pocket Money)

ทักษะภาษา:

  • กรณีลงเรียนภาษา ไม่จำเป็นต้องมีคะแนนสอบภาษาอย่างเป็นทางการ (แต่สามารถไปสอบเพื่อนำมาประกอบการยื่นวีซ่าได้ว่าเราต้องการพัฒนาคะแนนภาษาจริงๆป)
  • หากเรียนต่อคอร์สสายอาชีพ หรือ ระดับปริญญา ผู้เรียนจะต้องมีคะแนนภาษาตามที่แต่ละสถาบันและสาขากำหนด เช่น คอร์สสายอาชีพ IELTS 6 ขึ้นไป, เรียนปริญญาโท IELTS 6.5 ขึ้นไป เป็นต้น

อ่านรายละเอียดแบบเต็มๆ ของโปรแกรม Work and Study ได้ ที่นี่

ข้อดี

  • สามารถไปได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แม้จะเรียนจบและทำงานแล้ว ก็ยังสามารถไปได้
  • ได้มีโอกาสทั้งเรียนและทำงานในเวลาเดียวกัน
  • มีโอกาสอยู่ต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน ระยะเวลาคอร์สเรียนได้ มีตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 1 ปี หรืออาจมากกว่านั้น
  • สามารถต่อวีซ่านักเรียนที่ประเทศปลายทาง เพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น เมื่อเรียนคอร์สภาษาจบแล้ว สามารถสมัครเรียนต่อคอร์สสายอาชีพใน College หรือเรียนต่อระดับปริญญาในมหาวิทยาลัย และยื่นขอต่อวีซ่าได้
  • สามารถเลือกที่จะทำงาน Part-time หรือไม่ทำก็ได้ และสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ตามใจ

ข้อจำกัด

  • ในบางประเทศ หากอายุเกิน 30 ปี มีความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธวีซ่า เช่น ออสเตรเลีย
  • ต้องมีการเตรียมโปรไฟล์ และหลักฐานการเงิน เป็นอย่างดี ก่อนยื่นวีซ่าในบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ไอร์แลนด์
  • บางประเทศมีการจำกัดชั่วโมงการทำงานของวีซ่านักเรียนที่ 20-25 ชม./สัปดาห์ (ยกเว้นดูไบ) เพื่อป้องกันการใช้วีซ่านักเรียนผิดวัตถุประสงค์
  • ผู้เรียนต้องหางาน Part-time ด้วยตนเอง และต้องบริหารจัดการเวลาเรียนกับเวลาทำงานให้เหมาะสม

สำหรับน้องๆ ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป สนใจไป Work and Study ที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ดูไบ หรือไอร์แลนด์ ติดต่อพี่ๆ IEC Abroad ได้เลยนะคะ ปรึกษาวางแผน และดำเนินการฟรีทุกขั้นตอน

บทความอื่นๆ

ปรึกษา IEC Abroad ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

.
Blog Footer

.
Scroll to Top